เรื่อง ความลับของหลุมดำ กับลุงแอลเบิร์ต ผู้แต่ง Russell Stannard สำนักพิมพ์ พิศวาส ปทุมุต์ตรังษี ราคา 95 บาท ความลับของหลุมดำ กับลุงแอลเบิร์ต เป็นหนังสือเล่มที่สองในชุดนี้ค่ะ แต่ถึงอย่างนั้น หนังสือทั้งสามเล่มนี้ก็ไม่ได้ต่อกัน แม้ว่าไทม์ไลน์ของเหตุการณ์จะต่อเนื่องกัน แต่เนื้อหาในเล่มนั้นไม่เชื่อมโยงต่อกันให้สับสนค่ะ เราสามารถอ่านเล่มไหนก่อนก็ได้ หรือจะเลือกอ่านเพียงเล่มที่สนใจเล่มเดียวก็ได้ ในเล่มนี้ กล่าวถึงเรื่องราวความโค้งของอวกาศ เรื่องราวของหลุมดำ ฯลฯ ก้าวไปใกล้กับเรื่องของคลื่นความโน้มถ่วงมากกว่าเล่มที่แล้วเสียอีก (เล่มที่แล้วคือ มหัศจรรย์แห่งเวลาและอวกาศ กับลุงแอลเบิร์ต ค่ะ) และเราก็คิดว่า มันออกจะเข้าใจยากมากกว่าเล่มแรกนิดหน่อยด้วย ในหนังสือเล่มที่สองเล่มนี้ คุณลุงแอลเบิร์ตยังคงตีกรอบความคิดอันเดิมของเรา ให้แตกกระจายออกไปมากกว่าเดิมอีก อย่างเช่นเรื่องของอวกาศที่ไม่ได้ว่างเปล่า แต่มีอะไรบางอย่างที่บังคับให้วัตถุอื่นๆ เคลื่อนที่เป็นเส้นโค้ง .. อะไรบางอย่างที่ไม่ใช่แรงโน้มถ่วง!! แรงโน้มถ่วงที่เรารู้จักมาตลอดชีวิต ว่ามันคือแรงดึงดูดวัตถุโคจรรอบดวงดาว ว่ามันคือแรงดึงดูดที่ทำให้กระสวยอวกาศโคจรรอบโลกของเรา .. ลุงแอลเบิร์ตกลับบอกว่าไม่ใช่!! แล้วอย่างเรื่องที่บอกว่า อวกาศของเรากำลังขยายตัวออกไปเรื่อยๆ นับตั้งแต่เหตุการณ์บิกแบงครั้งนั้นจนปัจจุบันก็ยังไม่สิ้นสุดอีกล่ะ แล้วถ้าไม่ใช่เพียงแค่โลกของเราหรือดาวดวงต่างๆ จะเป็นทรงกลม แต่อวกาศเองก็อาจจะกลายเป็นทรงกลมได้ในวันหนึ่งด้วยล่ะ! มันน่าทึ่งจริงๆ ที่ไอน์สไตน์จินตนาการไปขนาดนั้นได้ยังไง!! เป็นหนังสือเล่มบางๆ[…]

เรื่อง มหัศจรรย์แห่งเวลาและอวกาศ กับลุงแอลเบิร์ต ผู้แต่ง Russell Stannard สำนักพิมพ์ พิศวาส ปทุมุต์ตรังษี ราคา 85 บาท ฟิสิกส์ คือวิชาที่เราเกลียดที่สุดสมัยเรียนมัธยมปลายค่ะ ทั้งๆ ที่ตอน ม.4 เราเริ่มต้นทำความรู้จักกันด้วยดีแท้ๆ แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ความไม่รู้ไม่เข้าใจก็ค่อยสะสมทับทวี รู้ตัวอีกที ก็เกลียดฟิสิกส์เข้าไส้ซะแล้ว .. ผ่านพ้นวัยมัธยมมาด้วยการขุดฝังฟิสิกส์เอาไว้ระดับลึกสุดใจ หลบหนีทุกโอกาสที่จะเข้าใกล้หรือพานพบ .. แต่สุดปลายความทรงจำยังเตือนบ่อยๆ ว่า .. เรากับฟิสิกส์ .. เกลียดกันจริงหรือ? คงเป็นจิตใต้สำนึก ที่ยุยงส่งเสริมให้เราซื้อหนังสือจำพวกนี้หมกเอาไว้ตามซอกตู้หนังสือในบ้าน หวังลมๆ แล้งๆ ว่า สักวันหนึ่งคงจะมีอารมณ์อยากรื้อฟื้นความสัมพันธ์อันเก่าก่อน .. ปีนี้ตั้งใจแล้วค่ะว่าจะเคลียร์กองดองระดับฮาร์ดคอร์ คือหยิบหนังสือลำดับท้ายๆ .. เล่มที่อยากอ่านน้อยที่สุด .. ดูจะอ่านยากที่สุด .. ในกองดองมาอ่านเสียบ้าง .. ถึงวันนี้ ก็ยังไม่ค่อยอยากอ่านมันเท่าไรหรอกค่ะ ..[…]

เรื่อง อ่านหนังสือเล่มนี้เถอะ..ที่รัก ผู้แต่ง ไพลิน รุ้งรัตน์ สำนักพิมพ์ คมบาง ราคา 130 บาท หนังสือดีหรือไม่ดี ชอบหรือไม่ชอบ .. บางทีก็เป็นเรื่องเฉพาะตัวจริงๆ นับประสาอะไรกับคนอื่น หนังสือเล่มหนึ่งที่เคยอ่านแล้วไม่ชอบ .. วันเวลาผ่านไป กลับกลายเป็นชอบก็ถมเถ .. อย่างเช่นเล่มนี้ไงคะ อ่านหนังสือเล่มนี้เถอะ .. ที่รัก เรียบ เนิบ แบบที่อ่านตอนเด็กๆ แล้วเคยไม่ชอบ แต่เมื่อเดินทางมาถึงวัยครึ่งคน กลับรู้สึกว่ามันอบอุ่นและชื่นเย็นไปพร้อมๆ กัน มันเรียกอมยิ้มน้อยๆ จากเราได้ตลอดเรื่อง ประสบการณ์ชีวิตได้เปลี่ยนนิยายเรื่องหนึ่งที่เคยอ่านแล้วเฉยๆ เบื่อๆ กลายเป็นนิยายที่กระแทกใจอย่างแรง ทั้งขมขื่น ทั้งตื้นตันจนทำให้น้ำตาซึม อ่านหนังสือเล่มนี้เถอะ..ที่รัก คือบทความสั้นๆ ที่จับพลัดจับผลูได้กลายมาเป็นนิยายค่ะ เป็นเรื่องราวของหมอหนุ่มกับหญิงสาวผู้เป็นหลานสาวเจ้าของคนไข้จำเป็นรายหนึ่ง หมอจุลละถูกขอร้องแกมบังคับให้ต้องมาตรวจอาการคนไข้ของเพื่อน ถึงที่บ้านในวันหนึ่ง คนไข้ผู้นี้มีนามว่าคุณย่าบัว เป็นคุณย่าที่เป็นหนอนหนังสือตัวยง บ้านของคุณย่าบัวตั้งอยู่ในรั้วรอบขอบชิดของบ้านไทยยุคเก่า บริเวณบ้านเต็มไปด้วยไม้ดอกไม้ผลร่มรื่น ผู้คนในบ้านมีวิถีชีวิตที่เงียบเชียบ เรียบสงบ บ้านของคุณย่าบัวผู้นี้[…]

เรื่อง กระเตงลูกเที่ยว ผู้แต่ง ธีรภาพ โลหิตกุล สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ ราคา 180 บาท แรกเริ่มเดิมทีเราเองก็ไม่ได้เป็นแฟนงานเขียนของคุณธีรภาพหรอกค่ะ ซื้อหนังสือเล่มนี้ก็เพราะคำสองคำ .. คำว่า “ลูก” กับคำว่า “เที่ยว” บนปกนี่แหละ ดังนั้น การรีวิวหนังสือเล่มนี้ จึงรีวิวเฉพาะหนังสือเล่มนี้ล้วนๆ ไม่มีข้อมูลใดให้เปรียบเทียบกับหนังสือเล่มก่อนเก่าของนักเขียนท่านนี้เลยแม้แต่น้อย .. กระเตงลูกเที่ยวเล่มนี้ แตกต่างแบบไปคนละทางเลยกับ สายเดี่ยวเที่ยวธรรมชาติ ของดร.ธรณ์ เพราะเล่มนั้นเล่าเหตุการณ์ไปตามท้องเรื่อง มีตัวละครรอบตัวนำพาเหตุการณ์ไป แต่ในเล่มนี้ ผู้เขียนไม่ได้กล่าวถึง “ลูก” ในการเที่ยวเลย เพียงแต่ยกสถานที่ที่เหมาะสำหรับเด็กๆ มาผนวกกับข้อมูลในเชิงสารคดี ความรู้ทางด้านสังคมศาสตร์ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์เอาไว้อย่างน่าอ่าน สถานที่ที่ยกมาล้วนแต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ ที่ไม่ว่าจะเช้าไปเย็นกลับ หรือจัดทริปสั้นๆ ช่วงสุดสัปดาห์ เที่ยวติดต่อในละแวกใกล้เคียงกันสัก 3-4 ที่ หรือแม้แต่ในกรุงเทพฯ เอง ก็มีสถานที่น่าเที่ยวอีกไม่น้อยทีเดียว ปิดท้ายแถมพกในแต่ละบทด้วยข้อมูลการท่องเที่ยวนิดหน่อย ทำให้รสชาติของหนังสือสองเล่มนี้แตกต่างกันไปอย่างผิดคาด[…]

เรื่อง สายเดี่ยวเที่ยวธรรมชาติ ผู้แต่ง ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ สำนักพิมพ์ บ้านพระอาทิตย์ ราคา 140 บาท แม้จะจั่วหัวว่าเป็น สายเดี่ยวเที่ยวธรรมชาติ แต่เอาเข้าจริงอาจารย์ธรณ์ก็ควงสาวๆ สายเดี่ยวเที่ยวได้เพียงไม่กี่ตอน หลังจากนั้นสาวหนึ่งในนั้นก็กลายเป็นศรีภรรยา และหนังสือเล่มนี้กลายเป็นเล่าเรื่องทริปฮันนีมูน .. และทริปทารกไปตามลำดับ ซ้ำรอยไปกับก้นกลมพุงป่องฯ เบาๆ อ่านไปถึงช่วงหลังๆ ยังมีกลิ่นอายอนุรักษ์แบบ ใต้ทะเลมีความรัก เสียด้วยซ้ำ เรียกว่ารวมทุกแนวเอาไว้ในเล่มเดียว หนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือสารคดีท่องเที่ยวแบบเบาสมองสไตล์ ดร.ธรณ์แบบที่เคยอ่าน แต่ถ้าจะนับกันตามตรง เล่มนี้ถูกเขียนขึ้นเป็นเล่มแรก ก่อนเล่มใดทั้งหมดค่ะ แม้ว่าโหมดหนังสือจะดูปะปนกันไปหน่อย แต่เนื้อหาล้วนๆ นอกเหนือการท่องเที่ยว ผู้เขียนยังคงเน้นเรื่องของธรรมชาติ ชัดเจนแจ่มแจ้งที่ธรรมชาติทางทะเลเป็นหลัก นอกจากนั้นยังมีเรื่องราวของภูเขา และการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมประปราย โดยสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งในเล่มนี้เป็นของใหม่ แม้หนังสือจะถูกพิมพ์มาหลายปีแล้ว เราก็ยังไม่ค่อยเห็นใครกล่าวถึงสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งในนี้ อาทิเช่น วัดพู (ประเทศลาว), ปราสาทบ้านพลวง (ประเทศไทย) ฯลฯ สรุปสั้นๆ สำหรับหนังสือเล่มนี้ .. เรียกได้ว่าครบรสค่ะ[…]

เรื่อง ขนุน 3 ขีด 20 ผู้แต่ง นิมิต ศัลยา สำนักพิมพ์ มติชน ราคา 150 บาท หนังสือเล่มนี้ เราเลือกซื้อเข้าบ้านมาในช่วงเวลาไล่ๆ กับเล่มก่อน .. เป็นแม่แค่เรื่องหมูๆ ค่ะ ด้วยความคาดหวังที่เริ่มจะสูงขึ้นมาอีกนิด เพราะเล่มก่อนสนุกมาก (แต่จริงๆ แล้วสองเล่มนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลยนะคะ แค่เนื้อหาคล้ายกันเท่านั้น) ^^” ขนุน 3 ขีด 20 มีความเป็นไดอารีหรือสมุดบันทึกมากกว่า เป็นแม่แค่เรื่องหมูๆ ค่ะ เนื้อหาค่อนข้างเฉพาะตัวมากกว่า บอกเล่าประสบการณ์ตนเองมากกว่า จะเป็นการแบ่งปันเรื่องราวแบบเล่มที่เพิ่งจบไป เปิดด้วยสำนวนรัวปืนกลเหมือนคนพูดไม่หยุด ต้องตั้งสติสักพักหนึ่งถึงจะชิน บ้านนี้ก็เล่าเรื่องของลูกชายเช่นกันค่ะ แต่เป็นลูกชายเพียงคนเดียว นามว่า .. ขนุน เนื้อหาค่อนข้างฮาร์ดคอร์กว่าเป็นแม่แค่เรื่องหมูๆ อย่างเรื่องของครูเพศที่สามที่ล่วงละเมิดทางเพศกับนักเรียน เรื่องทัศนคติของนักเรียนที่มีต่อครู อันครอบคลุมไปถึงโรงเรียนและประเทศ โดยเนื้อหาที่เล่าในเล่มนี้จะเป็นเรื่องเล่าจากสถานการณ์จริงเป็นส่วนมาก แต่ไม่มีการเสริมทฤษฎีบทอื่นๆ นอกจากวิจารณญาณของคนเห็นแม่ล้วนๆ นอกจากนี้ยังมีเรืองข้องแวะกับยาเสพติด และเรื่องชวนหวาดเสียวสำหรับคนเป็นแม่อีกมากมาย[…]

เรื่อง mommy’s diary เป็นแม่แค่เรื่องหมูๆ ผู้แต่ง สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน ภาพประกอบ ภัทรีดา ประสานทอง สำนักพิมพ์ บ้านพระอาทิตย์ ราคา 190 บาท หนังสือเล่มนี้ซื้อมาตั้งแต่ตอนตั้งท้องคนถือหนังสือในรูปอยู่ค่ะ ช่วงนั้นชอบซื้อชอบอ่านหนังสือแนวแม่ๆ ลูกๆ มาก อ่านแล้วอิน อ่านแล้วฟิน เรียกแพ้ท้องได้หรือเปล่าไม่รู้ แต่ถ้าแพ้ ตอนนี้ก็ยังแพ้ไม่หาย เพราะยังบ้าซื้อหนังสือไม่เลิก แค่เปลี่ยนเป็นแนวอื่นแทนเท่านั้น ;P เรื่องเล่าในหนังสือ เป็นประสบการณ์จริงจากคุณแม่ลูกชายสองค่ะ ผู้เขียนหยิบยกเรื่องเล่าจริงมาในแต่ละตอน พร้อมทั้งคำแนะนำอันเหมาะสมสำหรับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น เรียกว่ามาเต็มทั้งทฤษฎีและสถานการณ์จริง ทั้งนี้ ผู้เขียนน่าจะหนักหนากว่าเราหลายเท่า เพราะลูกสอง แถมยังเป็นลูกชายทั้งคู่เสียด้วย สถานการณ์ส่วนใหญ่จึงมักเป็นวิธีการห้ามศึกระหว่างลูกชายทั้งสอง มีการนำเสนอข้อขัดแย้งที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเลือกโรงเรียนให้ลูก ทั้งแบบที่เน้นความสุขเป็นหลัก และแนวเตรียมความพร้อม .. ให้เด็กพร้อมที่จะฟันฝ่าอุปสรรคอีกยาวไกลในอนาคต ผู้เขียนนำเสนอด้วยแง่คิดที่น่าสนใจ ให้พ่อแม่ได้แตกฉานความคิดตนเองที่จะวางแผนอนาคตให้ลูกน้อย บทความคมคาย ให้ข้อคิด .. เป็นการใส่บทเรียนชีวิตให้เราฉุกคิดตาม และค้นหาคำตอบได้เองโดยที่ผู้เขียนไม่ต้องสรุปจบให้เราเลย ผู้เขียนอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับเด็กและการเลี้ยงลูกมามากมายหลายสำนักทั้งไทยและเทศ แล้วมาประมวล มาย่อย[…]

เรื่อง มุกดากับสาหร่าย ผู้แต่ง ดวงแก้ว กัลยาณ์ฯ สำนักพิมพ์ ต้นอ้อ ราคา 40 บาท เป็นการหยิบอีกหนึ่งวรรณกรรมวัยเด็กของเรามาอ่านค่ะ ตอนเด็กๆ รู้สึกเพียงแต่ว่าหนังสือเล่านี้เป็นเรื่องเล่าที่มีกลิ่นอายของความเศร้า .. เมื่อเติบโต จึงได้ซึมซับ ลึกซึ้ง .. หนังสือเล่มนี้สอนถึงความเศร้า การจากลา และการเปลี่ยนแปลงให้แก่เด็กๆ นั่นเอง ฉากของเรื่องเกิดขึ้นที่ริมทะเลสาบสงขลา ครอบครัวของมุกดาเป็นครอบครัวใหญ่อาศัยอยู่ร่วมกันนับสิบๆ ชีวิต มีแม่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ยากจนและขี้โมโห มุกดามีน้องคนหนึ่งชื่อว่าสาหร่าย .. เธอรักน้องสาวของเธอมาก มุกดามีหน้าที่ดูแลสาหร่ายเอง มุกดาอายุราวเจ็ดขวบ และสาหร่ายก็อายุราวสี่ขวบ ผู้เขียนเขียนความรู้สึกเด็กไม่มีพ่อสองคนนี้เอาไว้อย่าน่าเศร้าและสะเทือนใจ ปีนี้มุกดาไปโรงเรียนเป็นปีแรก และวันที่เธอไม่ได้ไปโรงเรียน เด็กหญิงก็ต้องช่วยแม่ทำงานหาเงิน อย่างเช่นช่วยแม่รับจ้างตากปลา พับถุงกระดาษให้แม่เอาไปขาย หรือแม่แต่ไปช่วยทำความสะอาดบ้านเถ้าแก่รวยๆ แม้จะเป็นเรื่องราวของเด็กหญิงจนๆ ที่น่าจะดูเศร้าแต่เรื่องนี้ก็น่ารัก มีความงามและน่ารักซ่อนอยู่ตามย่อหน้าและช่องไฟของตัวอักษรโดยตลอดทั้งเรื่อง จุดเด่นที่สุดเลยน่าจะเป็นความรักที่มุกดามีต่อน้องสาว และความเป็นเด็กดีของตัวเด็กหญิงเอง ความดีและความใสซื่อแบบเด็กๆ เป็นส่วนหนึ่งของความสวยงามและความน่ารักที่ว่า

เรื่อง เรื่องเล่าของดอกไม้ ผู้แต่ง รักษิตา สำนักพิมพ์ ฟรีฟอร์ม ราคา 280 บาท รักษิตาคนเดิมที่เคยเล่านิทานน่ารักเอาไว้สองเล่ม และเราเคยรีวิวไปแล้ว เรื่องเล่าแห่งความรัก และ นิทานแห่งความหวัง มาหนนี้ เธอจะเล่าเรื่องของดอกไม้ค่ะ .. เป็นเรื่องเล่าอารมณ์ดีของดอกไม้ผสมความทรงจำก่อนเก่า ความงดงามของดอกไม้สามัญ ที่ส่วนมากเรารู้จักชื่อรู้จักหน้าตากันดี จนเผลอลืมคุณค่าของมัน ตัวหนังสือให้รสชาติหวานๆ หอมๆ อ่านง่าย .. และมักจะได้ยิ้มติดกลับมาทุกครั้งระหว่างบท นอกจากเรื่องเล่าของดอกไม้แล้ว ภายในเล่ายังประกอบไปด้วยภาพสีสวยหวาน เป็นภาพสีน้ำของดอกไม้นานาชนิดที่เธอเล่าถึง ที่หวานพอๆ กับภาพปก บางหน้าเว้นหน้าเพื่อให้ที่ว่างเพื่อพักสายตา .. และบันทึกความทรงจำหอมๆ หวานๆ ของเราลงไปแจม สำนวนอ่อนหวาน หอมหวล แม้ไม่ใช่นิทาน ก็เหมือนกับนิทาน หลายอย่างอ่านแล้วนึกถึงตัวเอง เพราะเคยเล่นกับดอกไม้แบบนี้เหมือนกัน และนึกต่อไปอีกหน่อยก็ยิ่งสะท้อนใจ .. เพราะเด็กๆ ยุคนี้ไม่ค่อยมีโอกาสได้เล่นกับดอกไม้เหมือนเมื่อก่อนกันแล้ว เสียดายความอ่อนโยน ความหอมหวาน ที่จะช่วยกล่อมเกลาจิตใจเด็กๆ ดอกไม้ที่รู้จัก กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งคุณค่าและราคาในร้านดอกไม้ ไม่สามารถเอามาฉีก[…]

เรื่อง ดอกไม้สำหรับมิสซิสแฮรีส ผู้แต่ง พอล กาลลิโค ผู้แปล บัญชา สำนักพิมพ์ สร้างสรรค์-วิชาการ ราคา 35 บาท ความฝัน สวยงามสำหรับเจ้าของเสมอ แม้ว่าใครจะมองว่ามันเป็นฝันเล็กๆ แต่มันยิ่งใหญ่และหอมหวลยิ่งนัก กับผู้ที่เป็นเจ้าของ เมื่อพนักงานทำความสะอาดบ้านผู้ต้อยต่ำแห่งลอนดอน ต้องมนต์สะกดของชุดดิออร์ .. ซึ่งนางบังเอิญได้เห็นชุดของเจ้าของห้องที่นางทำความสะอาดให้ ความหรูหรา งดงาม เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ ทำให้นางถึงกับปฏิญาณกับตนเองว่า สักวันหนึ่งนางจะต้องเป็นเจ้าของชุดแบรนด์นี้ให้ได้ และนั่นคือที่มาของหนังสือเล่มบางๆ เล่มนี้ มิสซิสแฮรีสตั้งใจทำงานและเก็บหอมรอมริบเงินทองทีละน้อยวันแล้ววันเล่า เธอต้องพานพบบททดสอบและต้องใช้อุตสาหะมากมาย เพียงเพื่อเดินตามความฝันอันสุดเอื้อม .. แม้ไม่ง่าย .. แต่แล้วในวันหนึ่ง ฝันนั้นก็กำลังจะกลายเป็นจริง นางมีเงินเพียงพอจะซื้อตั๋วเครื่องบินไปกลับปารีส พร้อมด้วยค่าชุดดิออร์หนึ่งชุด .. ทุกอย่างพร้อมสรรพ เหลือเพียงแต่การผจญภัยอันระหกระเหินที่จะเกิดขึ้นในเล่มนี้เท่านั้น! เป็นเรื่องราวธรรมดาๆ เรื่องหนึ่ง ที่มีสำนวนและวิธีเล่าดีมาก ผู้เขียนชวนให้เราเอาใจจดจ่อช่วยลุ้นให้มิสซิสแฮรีสซื้อเสื้อชุดนั้นได้สำเร็จ โดยที่การเดินทางไปยังปารีสของเธอนั้น แม้จะไม่ได้ระหกระเหิน ผจญภัยสุดแรงเกิด และชวนท้อถอยเท่าไรนัก แต่วิธีเล่า และลักษณะนิสัยของนางที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคและความเหยียดหยามใดๆ ก็ทำให้เราเชียร์นางได้อย่างสนุกมากขึ้น[…]