เรื่อง ฉันหลงรักฤดูกาล ผู้แต่ง สกุณี ณัฐพูลวัฒน์ สำนักพิมพ์ ไม้ไต่เขียน (มติชนหนุนหลัง) ราคา 165 บาท ฉันหลงรักฤดูกาล เป็นฤดูกาลที่พันผูกอยู่กับพันธุ์ไม้ ดอกไม้ ต้นไม้หลายชนิดให้ดอกผลตามฤดูกาล หรือแม้บางชนิดตัวตนของมันก็แปรเปลียนตามฤดูกาลให้เราชื่นชม .. ถ้าเพียงแต่เราจะหยุดสังเกต ต้นไม้ดอกไม้ล้วนแปรผันความงามไปตามฤดูกาล เปรียบเหมือนละครธรรมชาติให้เราเฝ้าชม เป็นความงามที่ปรากฏเสมอ เพียงแค่มนุษย์หยุดมอง ผู้เขียนใช้ภาษาที่สวย ละเอียดอ่อน ตัวหนังสืออารมณ์ดี เล่าเรื่องในแง่บวก เป็นสายตาของผู้ที่เฝ้ามองธรรมชาติด้วยความละเอียดอ่อน เป็นส่วนผสมลงตัวของต้นไม้และเรื่องเล่า มีความซน มีความสนุก อารมณ์ขันนิดๆ แบบไม่ใช่ที่หัวเราะก๊าก ถ้าอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วทำให้ยิ้มๆ อบอุ่น น่ารัก ก็เป็นยิ้มที่กว้างกว่าเล่มอื่นๆ อบอุ่นน่ารักกว่าเล่มอื่นๆ (หนังสือโปรดต้องอวยหน่อย ;P) แถมภาพประกอบยังสวยมาก (ไม่ได้ถ่ายใหม่ แอบเอาภาพเก่าที่เคยทำไว้มาลงค่ะ) ^^ แม้ว่าภาพประกอบจะสวย แต่ตัวหนังสือเพียวๆ ก็สร้างภาพประกอบในใจได้ไม่แพ้กัน

เรื่อง ร่มไม้ชายคา ผู้แต่ง ศิเรมอร อุณหธูป สำนักพิมพ์ มติชน ราคา 85 บาท ศิเรมอร อุณหธูป เป็นมนุษย์อีกคนที่ชอบคุยกับต้นไม้ อ่านไปสักพักก็ชักจะเชื่อ .. บางทีต้นไม้และดอกไม้ มันอาจจะมีภาษาของมันเองจริงๆ ก็ได้ และเพียงมนุษย์บางผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ร่วมสนทนาด้วย เฉพาะมนุษย์ผู้มีจิตใจอ่อนโยน ละเอียดอ่อน? มนุษย์อย่างเรา ยังคุยกับต้นไม้ไม่รู้เรื่อง อย่างมากก็แค่บ่นให้ต้นไม้ฟังแต่ฝ่ายเดียว ให้มากกว่านั้น ก็คุยกับนกหรือกิ้งก่าที่ป้วนเปี้ยนอยู่ในสวนด้วย เหมือนกับคนที่เลี้ยงแมวหมานั่งคุยกับสัตว์เลี้ยงตัวเอง ถึงขนาดนั้น แต่เราก็ยังไม่เคยฟังต้นไม้พูดสักที ร่มไม้ชายคา เป็นบทความที่เล่าถึงต้นไม้ ทั้งไม้ดอก ไม้ใบ ไม้กินได้ ฯลฯ ภาพประกอบสวย ภาษาสวย เนื้อหาอ่อนโยน หลายบทมีความเป็นเด็กๆ ทั้งภาษาและเรื่องที่เล่า คล้ายๆ แอบฟังเด็กๆ คุยกัน อ่านแล้วชื่นใจ รื่นรมย์ .. นั่นน่ะแหละนะ .. วัยเด็กของใครก็สวยงามทั้งนั้น ^^ ในวันที่ต้องการการพักผ่อน ในวันที่ต้องการบางสิ่งช่วยปลอบประโลม[…]

เรื่อง ฟังเสียงดอกไม้ทักทายกัน ผู้แต่ง รอมแพง อริยมาศ สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ (สนพ. ในเครืออมรินทร์) ราคา 135 บาท แทบได้กลิ่นดอกไม้หอมๆ ลอยออกมาจากตัวหนังสือของรอมแพง แม้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดอาการประมาณนี้ แต่ก็ไม่บ่อยนักหรอกที่จะได้กลิ่นดอกไม้ออกมาจากหนังสือ หนังสือความเรียงแนวผู้หญิงนิ่มนวล ผู้หญิงอ่อนช้อย เป็นบทความจบในตอน แต่ละตอนเป็นเรื่องราวของเหล่าดอกไม้และผู้คนในความทรงจำ มีสิ่งของบางสิ่งที่เมื่อเราเห็น เราจะนึกถึงใครบางคนที่เคยพบ เคยรู้จัก แต่สำหรับรอมแพง สิ่งนั้นคือดอกไม้ ดอกไม้ชนิดหนึ่งมักจะทำให้เธอนึกถึงใครคนหนึ่งในความทรงจำ บางดอกไม้ในบางเหตุการณ์ สุข ทุกข์ ความรัก ความคิดถึง .. และแน่นอน ชีวิตมนุษย์ย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ถ้าโลกนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เราก็คงไม่มีความหลังอันแสนสุขเอาไว้ให้ระลึกถึง

เรื่อง ใกล้และไกลในความทรงจำ ผู้แต่ง อุรุดา โควินท์ สำนักพิมพ์ ณดา พับลิชชิ่ง ราคา 190 บาท รู้จักหนังสือเล่มนี้โดยบังเอิญที่สุดค่ะ ปกติ เราเองจะติดตามเว็บและเพจเกี่ยวกับหนังสืออยู่แล้ว พอมีอะไรออกมาใหม่ๆ ก็คอยอ่านรีวิวหรือคำโปรยแต่เนิ่นๆ เอาไว้ประกอบการตัดสินใจ ส่วนมากจะได้รู้จักหนังสือใหม่ๆ จากวิธีแบบนี้เป็นส่วนมากค่ะ แต่สำหรับ ใกล้และไกลในความทรงจำ เรากลับไปเห็นปกมันผ่านทางเพจของคุณอ๋าย นพเก้า เนตรบุตร  ‘ดอกนมแมว เพลย์‘ ผู้ที่รักการปักผ้า และถ่ายภาพในเพจพร้อมเรื่องเล่าก็สวยนุ่มๆ เนียนๆ เสมอ ปกสวยดีมีชัยไปกว่าครึ่งใช่ไหมคะ .. นั่นคือที่มาที่ทำให้เราได้พบกัลล์ ^^ ด้วยเหตุที่ช่วงนี้กำลังอ่านหนังสือเกี่ยวกับอาหารติดกันมาหลายเล่ม เมื่อเปิดๆ เนื้อหาในเล่มนี้ดูสำนวนและเรื่องราว (ที่ร้านหนังสือ) ก็ถือว่าน่าอ่านพอสมควร เผลอแป๊บเดียว เจ้านี่ก็มานอนแอ้งแม้งอยู่ที่ชั้นหนังสือบ้านเราอีกแล้ว ;P ใกล้และไกลในความทรงจำ เป็นหนังสือรวบรวมความเรียงจากคอลัมน์ “ครัวสีแดง” ในนิตยสารขวัญเรือน เป็นอีกเล่มที่มีเรื่องราว ความหลัง และความทรงจำ อยู่ในเมนูอาหาร (คิดไปคิดมาเรานี่เก่งเนอะ หาหนังสือแนวนี้มาอ่านต่อกันได้เยอะมาก ..[…]

เรื่อง enjoy breakfast ผู้แต่ง พลอย จริยะเวช สำนักพิมพ์ Talent 1 ราคา 440 บาท โอ้ว .. ราคาหนังสือทำอาหารภาพสวยงามแต่ละเล่มช่างรัญจวนใจยิ่งนัก นึกสภาพตอนตัวเองตกลงปลงใจซื้อมาไม่ออกเลย >,< (ตอนนั้นต้องทำสมองเบลอๆ ใช้ความอยากนำหน้า แล้วหลับตาหยิบไปจ่ายตังค์) ถัดจากครัวอบอุ่น เล่มนี้ว่าด้วยเรื่องของครัวอู้ฟู่ ครัวสุดหรูในฝันค่ะ >,< ช่วงสมัยวัยรุ่นย่างเข้าวัยทำงาน พลอย จริยะเวชเป็นอีกหนึ่งเจ้าของสำนวนที่เราชอบอ่าน แปลกดีเหมือนกันที่ไม่เคยซื้อหาหนังสือของเธอเป็นของตัวเองเลยสักเล่ม (อาจเป็นเพราะมีเล่มอื่นที่อยากได้มากกว่า) enjoy breakfast เล่มนี้เป็นเล่มแรก (ของเธอ) ที่เราได้ครอบครอง สาเหตุคงไม่ใช่อื่นไกล คงเป็นเพราะความยั่วยวนสวยงามของภาพปกและภาพประกอบนี่เอง กระแสการถ่ายภาพอาหาร หรือวัฒนธรรมถ่าย (ภาพ) ก่อนกินนั้น ผ่านช่วงพีคจนเริ่มจะกลายเป็นขาลงแล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีหลายคนเหนียวแน่นกับกิจกรรมนี้ แม้อาจจะไม่เห่อ ไ่ม่ถี่เท่าเมื่อก่อน แต่ก็ยังเกิดขึ้นบ้างเป็นพักๆ เวลาที่ได้กินเมนูที่พิเศษไปกว่าทุกวัน เราเข้าใจเอาเองว่า พฤติกรรมแบบนี้ รสนิยมแบบนี้มันเป็นไปเองโดยธรรมชาติ มีกระแสหลักพัดพาไปบ้างเล็กๆ น้อยๆ แต่การที่ใครจะถ่ายรูปอะไรมุมไหนนั้นมันออกจะเป็นสไตล์ส่วนตัว[…]

เรื่อง อิ่มอกอิ่มใจ ผู้แต่ง รัตมา พงศ์พนรัตน์ สำนักพิมพ์ polka dot ราคา 395 บาท ถัดจากครัวเหนือ (ฮาร์ดคอร์) แบบฮิมิโตะ ณ เกียวโต และครัวเหนือ (เพื่อสุขภาพ) แบบปราย พันแสงแล้ว เล่มนี้นำเสนอครัวอบอุ่น ครัวแห่งความรัก สุดฟรุ้งฟริ้งค่ะ (พลิกอารมณ์ตามแทบไม่ทัน) อ่านเมนูทำอาหารมาหลายๆ เล่มก็ชักจะจับสังเกตได้ว่า ผู้เขียนส่วนมากมักจะพ่วงเอาความหลังแถมมากับเมนูอาหารเหล่านั้นด้วย เมนูที่อร่อยที่สุด มักจะเป็นเมนูที่เคยกินตอนเด็กๆ เมนูที่ทำกินกันในบ้าน หรือเมนูที่พ่วงเอาความรักความเอาใจใส่ของครอบครัว ความทรงจำแกล้มรสชาติเหล่านี้จึงมักเป็นเมนูโปรดที่เราทุกคนต่างโหยหา แบบบ้านใครบ้านมัน สูตรใครสูตรมัน และยากจะตัดสินว่าใครเด็ดไปกว่าใคร ผู้เขียนได้รวบรวมและเรียงเรียงนานาเมนูที่ว่านี้ ผ่านปากคำตัวแทนเจ้าบ้านหลายๆ บ้าน บันทึกไว้ให้เราอ่าน แล้วอบอุ่น และอิ่มเอม เจ้าของเมนูอิ่มอกอิ่มใจในเล่มนี้ ประกอบไปด้วย แหวว ดร.ม.ล. จิตตวดี จิตรพงศ์, ก้อง พ.ต.ท. นรบดี ศศิประภา, พาย ภัทรียา[…]

เรื่อง I hate to cook : บันทึกคนเกลียดครัว ผู้แต่ง ปราย พันแสง สำนักพิมพ์ ฟรีฟอร์ม ราคา 295 บาท เปลี่ยนจากครัวเกียวโตและครัวสันคะยอมของฮิมิโตะ ณ เกียวโต มายังครัวของคนที่ (เคย) เกลียดครัวอย่าง ปราย พันแสง บ้างดีกว่า สิ่งแรกที่เหมือนกันเป๊ะเลยก็คือ ทั้งฮิมิโตะฯ และปราย พันแสง ต่างออกตัวแบบเดียวกันเปี๊ยบเลยว่า ตัวเองเป็นพวกที่ขี้เกียจ อ่านแล้วก็ขอยกมือค้านเบาๆ ว่า ขี้เกียจตัวจริงน่ะเราต่างหาก อ่านอย่างเดียว ไม่เคยลุกขึ้นมาทำเมนูใดสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันสักที สิ่งแรกที่แตกต่าง .. ฮิมิโตะฯ ทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก ทำจนสูตรอาหารแทรกซึมกลายเป็นชีวิตประจำวัน แม้แต่ป่วยไข้ยังลุกขึ้นมาทำกับข้าวแก้ป่วยด้วยตัวเอง ทำเมนูพิสดารได้สุดลัด (แบบที่คนขี้เกียจถึงจะคิดได้) มั่วๆ ออกมาแล้วก็ออกมาอร่อยเหาะ (เธอว่าอย่างนั้น) ในขณะที่ปราย พันแสง ไม่เคยเข้าครัวเลยตั้งแต่เด็ก อย่างนี้น่ะสิ ถึงเข้าใจตัวเองผิดมาตลอดว่า[…]

เรื่อง ครัวหรรษาจากปลาร้าถึงวาซาบิ ผู้แต่ง ฮิมิโตะ ณ เกียวโต สำนักพิมพ์ มติชน ราคา 155 บาท ชีวิตอย่างกับถูกจัดฉาก ในวันหนึ่งที่เราตะบี้ตะบันขุดงานเก่าๆ ของฮิมิโตะ ณ เกียวโต ออกมาอ่านไล่เรียงลำดับไปทีละเล่มนั้น ก็มีเหตุให้ต้องเดินทาง .. และระหว่างการเดินทางเราก็ได้พบเจ้าเล่มนี้ นอนรอเรานิ่งๆ อยู่ที่ร้านหนังสือมือสองแห่งหนึ่ง จากที่เคยคิดว่าจะปิดท้ายฮิมิโตะ เซ็ต เอาไว้ที่คลุกข้าวซาวเกลือ ครัวหรรษา จากปลาร้าถึงวาซาบิ เล่มนี้จึงกลายเป็นเล่มปิดท้ายกว่า แถมมาอีกเล่มไปโดยปริยาย อ่านผ่านๆ มาจากหลายเล่มว่าฮิมิโตะ ณ เกียวโต เคยร่วมแรงกับเพื่อนชาวญี่ปุ่น เปิดร้านอาหารไทยในญี่ปุ่นอยู่พักหนึ่ง หนังสือเล่มนี้ จะมาเล่าถึงประสบการณ์ครั้งนั้นแบบเพียวๆ เต็มๆ เมื่อฮิมิโตะฯ มีเหตุให้ต้องตกปากรับคำไปทำครัววาซาบิอยู่ร่วมปี เรื่องราวที่เกิดขึ้นในครัวจึงค่อยๆ ถูกถ่ายทอดสู่เราเหล่านักอ่านทีละน้อยๆ แม้จะเป็นการเริ่มต้นอย่างทุลักทุเล เพราะหุ้นส่วนทั้งสองล้วนเป็นมือใหม่นักฝันด้วยกันทั้งคู่ ตอนฝันก็ร่วมกันฝันดีอยู่หรอก แต่อีตอนทำก็แทบจะยกกระทะตะหลิวช้งเช้งกันไปปรึกษากันไป แต่ระยะเวลาที่ผ่านไป ทำให้ครัวแห่งนี้แข็งแรงขึ้น (บ้าง) ทั้งปริมาณสมาชิก สูตรอาหาร และปริมาณเสบียงกรัง[…]

เรื่อง คลุกข้าวซาวเกลือ ผู้แต่ง ฮิมิโตะ ณ เกียวโต สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ (สนพ. ในเครืออมรินทร์) ราคา 229 บาท ถ้ายกให้จักรวาลในสวนดอกไม้เป็นเล่มโปรด คลุกข้าวซาวเกลือ เล่มนี้คือเล่มที่ชอบรองลงมาสูสีกับจดหมายจากสันคะยอม เป็นการผสมผสานระหว่างเมนูอาหาร เพื่อน ความสัมพันธ์ ความรัก (ความไม่รัก?) ฯลฯ ได้อย่างลงตัว เหมาะเจาะกว่าเล่มใดๆ ตัวหนังสือของฮิมิโตะฯ เติบโตขึ้นตามตัวตนของเธอ และเรื่องราวในนั้น มันก็เพิ่มความสุขุม ละมุนละไม ความฟูมฟายลดลง ความรู้สึกตกผลึกแล้ว เรื่องรักเคล้าอาหาร (ซึ่งก็มักเป็นเมนูแปลกประหลาด แต่น่ากิน) เราน้ำลายไหลทุกครั้งที่ฮิมิโตะฯ บรรยายฉากการทำอาหารของเธอ (หรือของใครๆ ก็ตามที่เธอพาดพิงถึง) จากก็นั่งทำใจกันไป เพราะอาหารเหล่านี้ไม่รู้จะหากินได้ที่ไหน บางอย่าง ชื่อยังเพิ่งเคยได้ยินครั้งแรกในตอนอ่านนี่แหละ นึกๆ ไป มันก็เป็นหนังสือที่ไม่ดีเอาซะเลย .. อ่านดึกๆ หิวมาก >,< เราชอบการเล่าเรื่องแบฮิมิโตะฯ คือแบบสองรวมเป็นหนึ่ง เป็นการเล่าเรื่องตัดสลับของสองสิ่งซึ่งไม่เกี่ยวกัน แต่ก็เกี่ยวกัน[…]

เรื่อง vanishing life&desirable taste เมนูปรารถนา ผู้แต่ง ฮิมิโตะ ณ เกียวโต สำนักพิมพ์ ระหว่างบรรทัด ราคา 135 บาท ตีความ หาเหตุผลให้กับทุกอารมณ์ ทุกความรู้สึกที่เข้ามากระทบใจ บางทีมันมากเกินไปจนเรารู้สึกว่าชีวิตเธอมันช่างยากจัง แต่ฮิมิโตะ ณ เกียวโต ก็ยังเป็นนักเขียนผู้เขียนเรื่องอาหารได้อีโรติคเป็นบ้า!! (แม้ในช่วงภาวะอารมณ์อ่อนแออย่างในเล่มนี้) หลังจากที่หลงเพลินอยู่ในรสอาหารที่ฮิมิโตะฯ นำมาบอกเล่าอยู่หลายเล่ม และแล้วเล่มนี้เธอก็พากเรากลับมาหลงเพลินอยู่ในรสอารมณ์อย่างเต็มภาคภูมิอีกครั้ง นำความทุกข์ กิเลสตัณหาของตัวเองมาพัวพันกับเมนูอาหาร และเขียนเล่าเรื่องได้เป็นเล่ม (เก่งเว่อร์ .. ชมค่ะ) ฮิมิโตะฯ ยังคงเป็นฮิมิโตะฯ คนเดิมคนเดียวกับที่เล่าเรื่องต้นไม้ใบหญ้ารอบๆ บ้าน สำนวนวิเคราะห์โลก หยามเหยียดความรัก แต่ก็โหยหามัน เล่มนี้เธออ่อนแอเป็นพิเศษ ความเก่งกล้า เย้ยหยันลดน้อยถอยไป (อาจเกี่ยวกับกำลังใจในช่วงที่เขียน) แต่ในฐานะคนอ่าน เมนูปรารถนาเล่มนี้ยังคงอ่านเพลินเช่นเคย เพิ่มเติมอีกนิด เดี๋ยวจะหาว่าเล่มนี้ไม่มีสาระ เน้นอารมณ์ล้วนๆ นี่!! ดูความคิดสุดแหวกแนวของเธอเสียก่อน เธอชวนเชื่อจนเราเชื่อตามเธอไปด้วยอย่างนั้นจริงๆ[…]