ปีนี้เราอ่านหนังสือไปทั้งหมด 62 เล่ม
นึกคร่าวๆ แบบไม่ต้องไปเปิดดู
เราเข้าใจว่าเราอ่านงานแปลจากทางเกาหลีญี่ปุ่นไปเยอะมากกกก
แต่พอมานับกันจริงๆ แล้ว กลายเป็นว่า
เราอ่านงานแปลของฝั่งตะวันออก ไปแค่ 17 เล่มเอง
เป็นงานแปลของฝั่งตะวันตก อีก 13 เล่ม
ส่วนที่เยอะมากจริงๆ กลับกลายเป็นผลงานของนักเขียนไทย
ซึ่งอ่านไปถึง 32 เล่ม ตกใจเลยที่เราอ่านงานไทยไปเยอะขนาดนี้
ทั้งๆ ที่คิดว่าไม่ค่อยได้อ่าน
ความรู้สึกของคนเรามันเชื่อถือไม่ได้เอาจริงๆ

ดังนั้น จึงออกจะแปลกใจเลยว่า
พอมาเลือก 10 เล่มแห่งปีของเรา
ทำไมจึงมีหนังสือแปลฝั่งตะวันออกติดมาหลายเล่มมาก
บางทีการที่เราชอบอาจทำให้เราจดจำ
จนเผลอเข้าใจไปว่าอ่านเยอะ ..
อืม น่าจะเป็นแบบนั้นมั้ง

ถ้ามาลองนับเป็นประเภทของหนังสือกันบ้าง
ปีนี้เราอ่าน fiction ไปทั้งหมด 48 เล่ม
ซึ่งมีทั้งที่เป็นนิยาย เรื่องสั้น และกวีนิพนธ์
แล้วก็เป็น non – fiction อีก 14 เล่ม

ในบรรดาหนังสือทั้ง 62 เล่มที่อ่านจบไปนั้น
มี 10 เล่มที่เราชอบมากค่ะ
(ปีนี้เลือกมาได้ครบ 10 เล่มค่ะ 5555)

เล่มแรกเลยคือ แปดขุนเขา
เราอ่าน แปดขุนเขา เป็นเล่มแรกๆ ของปี
แม้จะจำรายละเอียดไม่ค่อยได้แล้ว
แต่จำความรู้สึกตัวเองได้ว่า มันเป็นการเริ่มต้นปีที่ดี

แปดขุนเขา เป็นหนังสือที่เล่าเรื่องไปเรื่อยๆ เนิบๆ แต่ไม่น่าเบื่อ
เราค่อยๆ ติดตามดูชีวิตของคนสองคนที่เป็นเพื่อนรักกัน
ต่างคนต่างเติบโตกันไปคนละเส้นทาง
พวกเขาได้กลับมาพบกันเรื่อยๆ
และเราได้เห็นชีวิตที่ดำเนินไปของพวกเขา
จำได้ว่า ชอบความรู้สึกตอนที่อ่านเล่มนี้มากๆ ค่ะ

รีวิวฉบับเต็ม

ทุกวันเป็นวันที่ดี : ความสุข 15 ประการที่การชงชาสอนฉัน
โอ้ย .. เล่มนี้ก็ดีงามอีกแล้ว
การนึกย้อนไปถึงหนังสือที่เราเคยอ่านแล้วรู้สึกดีกับมัน
มันช่างเยี่ยมยอดจริงๆ ค่ะ ^^

ทุกวันเป็นวันที่ดี เล่าชีวิตของผู้เขียน
ที่จับพลัดจับผลูไปเรียนชงชาเป็นเพื่อนคนอื่น
แต่ไปๆ มาๆ ตัวเองกลับอยู่กันมันต่อไปเรื่อยๆ จนถึงป่านนี้
แม้ผู้เขียนจะไม่ได้เข้าใจปรัชญาของการชงชาไปเสียทั้งหมด
แต่เราชอบความรู้สึกตอนที่ผู้เขียนค้นพบอะไรใหม่ๆ ได้เรื่อยๆ
ในระหว่างการเรียนแทบจะตลอดชีวิตของเธอ
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งหนังสือที่ดีต่อใจค่ะ

รีวิวฉบับเต็ม / คลิป

ร้านเครื่องเขียนนั้นใต้ต้นสึบากิ
หนังสือเล่มนี้ เราชอบแบบมีฉันทาคตินิดหน่อย
(จริงๆ เล่มอื่นก็อาจจะด้วยนะ แต่เล่มนี้ค่อนข้างชัดเจน)
ส่วนตัวเรา เราเป็นคนที่โหยหาอดีต ยึดติดกับคืนวันเก่าๆ
ไม่ค่อยชอบการไล่ตามอนาคต ไม่ชอบวิ่งตามเทคโนโลยี
ร้านเครื่องเขียนนั้นใต้ต้นสึบากิ ตอบโจทย์โดนใจไปเต็มๆ ค่ะ

หนังสือเล่าถึงการกลับมาบ้านเก่า ที่ตัวละครเคยมีความทรงจำในอดีต
มาทำอาชีพที่ตัวเองเคยเกลียดจนต้องหนีออกจากบ้าน
มาเป็น .. แบบที่ตัวเองไม่เคยวาดภาพเอาไว้ว่าจะเป็น
หนังสือให้อารมณ์ละเมียดละไม โหยหาอดีตอยู่หน่อยๆ
ทั้งอดีตชีวิตแบบเก่า และอดีตของตัวละครเอง
และมันก็เชื่อมโยงมาที่อดีตของเราด้วย
เป็นเล่มที่อ่านแล้วได้นึกถึงตัวเองค่ะ 🙂

รีวิวฉบับเต็ม / คลิป

บริทท์มารีอยู่ตรงนี้
เฟรียดริค บัคมัน ก้าวเข้ามาเป็นนักเขียนคนโปรดในดวงใจ
นับตั้งแต่เราอ่านอูเว่ฯ อ่านยายฝากบอกว่าขอโทษ
และมาจนถึงเล่มนี้ เขาก็ยังไม่เคยทำให้เราต้องผิดหวังเลยค่ะ

บริทท์มารีอยู่ตรงนี้ เป็นหนังสือที่ดีต่อใจมากๆ
มันเริ่มต้นคล้ายๆ เล่มอื่นของผู้เขียน
คือเริ่มต้นด้วยความวายป่วงของตัวละครหลัก
เขาเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ เป็นเรื่องที่เต็มไปด้วยปัญหา
เขาดึงเราเข้าไปในปัญหา ในความไม่ได้ดั่งใจ ฯลฯ
พอรู้ตัวอีกที เราก็คอยเอาช่วยป้าบริทท์
เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มก้อนสังคมในเรื่อง
หลงรักทุกๆ คน ทุกๆ ตัวละครเจ้าปัญหาเหล่านั้น
เป็นงานเขียนที่น่าทึ่ง และเข้าถึงจิตใจเราได้อย่างที่สุด
ชอบมากๆ จริงๆ ค่ะ (ร้องไห้ด้วย แงงงงง .. )

รีวิวฉบับเต็ม / คลิป

แดนดิไลออน
ปีนี้เราได้อ่านงานของโอตสึ อิจิ เยอะมาก หายคิดถึงไปเลยทีเดียว
หนึ่งในหลายเล่มที่ว่านี้ มีเล่มหนึ่งที่เข้าถึงได้ง่าย
สมควรแก่การแนะนำค่ะ 555

แดนดิไลออน รวบรวมความเป็นโอตสึ อิจิ เอาไว้ครบถ้วน
แต่มาในรูปแบบที่ละมุน อบอุ่น และฟีลกู๊ด
เรื่องพล็อต เล่มนี้ก็โดดเด่น
เราชอบนิยายแฟนตาซีนิดๆ ประเภทสลับร่าง ย้อนเวลา อะไรแบบนี้
เล่มนี้ตอบโจทย์เราอีกแล้ว
มีสืบสวนนิดๆ โรแมนติกหน่อยๆ เล่มนี้สนุกดีค่ะ ^^

รีวิวฉบับเต็ม / คลิป

เด็กน้อยโตเข้าหาแสง
ถ้าปีนี้เลือกที่สุดแห่งปีได้เพียงเล่มเดียว
เด็กน้อยโตเข้าหาแสงจะเป็นเล่มนั้นค่ะ
เล่มนี้คือที่สุดจริงๆ
เราอ่านเล่มนี้มาได้ครึ่งปีแล้ว ยังจำความรู้สึกตอนที่อ่านได้อยู่เลย
มันตื้นตัน มันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังบวก
เป็นหนังสือที่เติมพลังให้เราได้จริงๆ
ทั้งๆ ที่ผู้เขียนแค่เล่าการทำงานของคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง
แต่เขาช่างเต็มไปด้วยความเชื่อ เต็มไปด้วยพลังงานด้านดี
เป็นพาวเวอร์แบงค์ของคนรอบตัว และรวมไปถึงคนอ่าน
เราถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้ในรีวิวฉบับเต็มค่ะ
ความรู้สึกท่วมท้น มันล้นจริงๆ .. ชอบมากค่ะ

รีวิวฉบับเต็ม / คลิป

การเดินทางของผีเสื้อหลากสี
เป็นอีกเล่มที่เราอ่านในช่วงใกล้ๆ กันกับตอนที่อ่านเด็กน้อยโตเข้าหาแสง
เล่มนี้ให้ความรู้สึกคล้ายๆ กัน ในรูปแบบที่แตกต่างค่ะ
ผู้เขียนถ่ายทอดเรื่องราวหนักหน่วงออกมาในรูปแบบที่อบอุ่น
และเต็มไปด้วยพลังบวก
แม้ว่าเรื่องราวในเล่มจะหนักหน่วง
แต่การเล่าด้วยน้ำเสียงของวรรณกรรมเยาวชน
เล่าด้วยภาษาง่ายๆ เข้าอกเข้าใจ เคียงข้าง และเป็นมิตร
ก็ทำให้หนังสือเล่มนี้ย่อยง่าย
และยังพุ่งตรงเข้าถึงหัวใจคนอ่านได้ทันที
เป็นหนังสือที่ดีมากๆ ค่ะ

รีวิวฉบับเต็ม / คลิป

คุณ ผม เเละผู้คนที่สวนกันบนรถไฟสายฮังคิว
เราชอบนั่งรถไฟ และเราก็ชอบมองดูผู้คน
เล่มนี้ เราชอบวิธีเล่าเรื่องมากๆ
อยากลองเขียนงานที่มีวิธีเล่าเรื่องแบบนี้บ้าง
ผู้เขียนวางพล็อตเอาไว้ลงตัว เชื่อมโยงตัวละครตอนต่อตอน
เชื่อมโยงสถานที่ และเรื่องราวที่แยกออกไปของแต่ละคน
ทุกอย่างลงตัว ดีงาม และน่ารัก
เป็นอีกเล่มที่ฟีลกู๊ดค่ะ

รีวิวฉบับเต็ม / คลิป

โกโก้อุ่นๆ กับคุณในวันพฤหัสฯ
โกโก้อุ่นๆฯ รวมไปถึงชาเขียวอุ่นๆฯ
เป็นอีกสองเล่มที่มีวิธีเล่าเรื่องคล้ายๆ กันกับเล่มก่อนหน้า
คุณ ผม เเละผู้คนที่สวนกันบนรถไฟสายฮังคิว
เราคงหลงรักวิธีเล่าแบบนี้
และช่วงนี้ก็มีงานเขียนแนวนี้ออกมาบ่อยเหลือเกิน
อดไม่ได้ที่จะต้องเลือกแนวเดียวกันเข้ารอบมาอีกเล่มค่ะ

โกโก้อุ่นๆ กับคุณในวันพฤหัสฯ เล่าเรื่องความสัมพันธ์ของผู้คน
เป็นเรื่องแบบที่เราอาจเอาตัวเราสวมใส่เข้าไปในบางสถานการณ์
มันมีความละเอียดอ่อน เข้าอกเข้าใจ
มันอบอุ่น และเข้าถึงได้ง่าย
นอกจากนี้เรายังชอบพล็อต
ชอบการสร้างความสัมพันธ์ของเหล่าตัวละครกลุ่มก้อนใหญ่
ชอบความเกี่ยวกันแต่ไม่เกี่ยวกัน บนโลกกลมๆ ใบใหญ่ใบนี้
ชอบอะไรแบบนี้ค่ะ ^^

รีวิวฉบับเต็ม / คลิป

ระลอกคลื่นยามค่ำคืน
เล่มนี้เป็นหนังสือที่เรายืมห้องสมุดมาค่ะ
แต่มันเป็นหนังสือยืมที่พออ่านจบแล้ว
เราตัดสินใจจะไปซื้อเก็บเป็นของตัวเองอีกเล่มแน่ๆ
เชื่อได้ว่าต้องมีวันที่เราอยากหยิบมาอ่านซ้ำ

ระลอกคลื่นยามค่ำคืน เป็นผลงานเดียวกันกับผู้ที่เขียน
ขนมปังของพรุ่งนี้ แกงกะหรี่เมื่อวันวาน
ซึ่งทั้งสองเล่มตั้งใจบอกเล่าเรื่องราวเดียวกัน
ผู้เขียนเล่าถึงความตายได้อย่างอบอุ่น เป็นธรรมชาติ
คนเรา .. รู้ตัวว่าต้องตาย ..
คนที่ยังอยู่ ก็ต้องอยู่ต่อไปหลังความตายของคนคนนั้น
มันเรียบง่าย ไม่ฟูมฟาย อ่อนโยน และเป็นกำลังใจ
เป็นอีกเล่มที่ดีใจที่ได้อ่านในปีนี้ค่ะ

รีวิวฉบับเต็ม

นี่คือทั้งหมด 10 เล่มแห่งปี 2565 ของเรา
ทั้ง 10 เล่มนี้ ตอนที่อ่านก็ว่าดีแล้ว
แต่การได้มานั่งนึกถึงมันอีกครั้งในช่วงปลายปีแบบนี้ ..
ยิ่งดีเข้าไปใหญ่เลยค่ะ 🙂
มันช่างเป็นหนังสือที่ดี ดีใจที่ได้อ่าน
และอยากส่งต่อความรู้สึกดีๆ แบบนี้ให้ทุกคนค่ะ

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า 10 เล่มนี้ของเรา
จะเป็นตัวเลือกในการเลือกหนังสือของเพื่อนๆ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
อ่านให้สนุก และขอให้มีหนังสืออยู่ในทุกช่วงของชีวิตนะคะ
สวัสดีปีใหม่ค่ะ

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง
หนังสือแห่งปี 2557
หนังสือแห่งปี 2558
หนังสือแห่งปี 2559
หนังสือแห่งปี 2560
หนังสือแห่งปี 2561
หนังสือแห่งปี 2562
หนังสือแห่งปี 2563
หนังสือแห่งปี 2564

Comments are closed.

Post Navigation