เรื่อง คลื่นถี่ความเหงา ผู้แต่ง โอตสึ อิจิ ผู้แปล พรพิรุณ กิจสมเจตน์ สำนักพิมพ์ JBOOK (สำนักพิมพ์ในเครือ bliss) ราคา 150 บาท รวมเรื่องสั้นของโอตสึเล่มนี้จะแปลกหน่อยค่ะ แปลกตรงที่ แม้ชื่อหนังสือจะตั้งชื่อว่า “คลื่นถี่ความเหงา” แต่เรื่องสั้นทั้งหมดในเล่ม ไม่มีเรื่องใดชื่อตรงกับชื่อหนังสือเลยสักตอน แบบนี้ค่อยยุติธรรมหน่อย ^^ หนังสือเล่มนี้ รวมเรื่องสั้นเอาไว้ทั้งหมดสี่เรื่องด้วยกันค่ะ สัญญาณจากอนาคต, หัวขโมยกับอุบัติเหตุประสานมือ, เด็กสาวบนแผ่นฟิล์ม และทิวทัศน์ที่สาบสูญ เริ่มกันที่เรื่องแรกก่อน สัญญาณจากอนาคต ผม ชิมิสึ และนาโอกิ เป็นเด็กประถมโรงเรียนเดียวกันที่มีเหตุให้ได้รู้จักกันโดยบังเอิญ ในวันแรกที่ได้รู้จักกันนั้น นาโอกิบอกกับทุกคนว่าเขามีความสามารถพิเศษเห็นอนาคตได้ แม้จะไม่ตรงทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ประมาณครึ่งหนึ่งมันจะเกิดขึ้น นาโอกิเรียกมันว่าเป็นสัญญาณจากอนาคต ฟังดูไม่น่าเชื่อถือ และเด็กๆ อีกสองคนยังไม่ปักใจเชื่อ แต่หลังจากนั้น เด็กๆ ทั้งสามคนก็ได้พบกันบ่อยขึ้น และแล้วในวันหนึ่ง นาโอกิก็ได้รับสัญญาณจากอนาคตว่า .. “ถ้าไม่มีใครตายไปเสียก่อน[…]

เรื่อง รอยสักรูปหมา ผู้แต่ง โอตสึ อิจิ ผู้แปล พรพิรุณ กิจสมเจตน์ สำนักพิมพ์ JBOOK (สำนักพิมพ์ในเครือ bliss) ราคา 185 บาท อันที่จริง อีกเล่มของโอตสึ ที่เราอยากอ่านก่อนเล่มนี้ก็คือ “นัดหมายในความมืด” แต่ด้วยความที่เก็บของกำลังจะย้ายบ้าน ทำให้หาเจ้าเล่มนั้นไม่เจอสักที คงต้องยกยอดไปอ่านทีหลังค่ะ (เลยไม่ครบเซ็ตเลย) รอยสักรูปหมา เป็นรวมเรื่องสั้นที่หนากว่าเล่มอื่นหน่อยค่ะ เพราะรวมเอาไว้ถึงสี่เรื่องด้วยกัน ดวงตาแห่งศิลา, ฮาจิเมะ, BLUE, และรอยสักรูปหมาเป็นเรื่องสุดท้าย ดวงตาแห่งศิลา เปิดเรื่องมาด้วยอารมณ์แบบ .. เฮ้ย! นี่มันเมดูซ่าชัดๆ มันเริ่มต้นด้วยเรื่องราวอันเป็นตำนานของหมู่บ้านแห่งหนึ่งในชนบท เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับหญิงสาวที่หลอกให้คนอื่นมองตา แล้วคนผู้นั้นจะกลายเป็นหิน ในช่วงปิดเทอมปีหนึ่ง “ผม” ผู้เล่าเรื่อง ได้กลับมายังบ้านเกิดในช่วงปิดเทอม เขาออกปีนเขาทุกๆ ปิดเทอม เพื่อตามหาแม่ของตัวเองที่หายไปบนภูเขาในตอนที่เขายังเด็ก ในปีนี้ คุณครู N เพื่อนครูคนหนึ่งได้ขอติดตามมาปีนเขาในครั้งนี้ด้วย อุบัติเหตุระหว่างเดินป่า[…]

เรื่อง ฉันหายไปในวันหยุด ผู้แต่ง โอตสึ อิจิ ผู้แปล สุดารัตน์ นิยมพานิชพัฒนา สำนักพิมพ์ JBOOK (สำนักพิมพ์ในเครือ bliss) ราคา 160 บาท เล่มนี้ก็ยังเป็นรวมเรื่องสั้นของโอตสึ อิจิ เช่นเคย (แต่จะต่อไปอีกหลายเล่ม) ค่ะ แม้จะบอกว่าเป็นรวมเรื่องสั้น มีเรื่องสั้นรวมกันอยู่ในเล่มสองเรื่อง คือ ฉันหายไปในวันหยุด กับเพื่อนร่วมบ้านที่มองไม่เห็น แต่การแบ่งสัดส่วนของทั้งคู่ กลับเน้นไปที่ฉันหายไปในวันหยุดเกือบทั้งหมด โดยมีเพื่อนร่วมบ้านฯ เป็นเหมือนเรื่องสั้นเสริมเติมเต็มให้เล่มเท่านั้นค่ะ ฉันหายไปในวันหยุด เป็นเรื่องของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่แม่ของเธอได้แต่งงานครั้งที่สองกับเศรษฐี การได้อยู่ในบ้านเศรษฐีทั้งๆ ที่เคยยากจนมาก่อน ทำให้สถานะของเธอเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง เด็กหญิงอยู่ในบ้านนั้นได้ไม่นาน แม่ก็จากไป เหลือเพียงตัวเธอ พ่อเลี้ยงที่เธอเรียกว่าป๊ะป๋า และอาเอริเท่านั้น ผ่านไปอีกหลายปี จนนาโอะเติบโตขึ้น ป๊ะป๋าที่ไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของเธอก็แต่งงานใหม่อีกครั้ง แม้จะมั่นใจในตัวเอง แต่นาโอก็อยู่ในบ้านนั้นด้วยความรู้สึกว่า .. ตัวเองไม่ได้มีสายเลือดผูกพันกับคนในบ้าน เธอไม่มั่นใจในความสัมพันธ์แบบแปลกๆ แบบนี้ และนั่น[…]

เรื่อง โทรศัพท์สลับมิติ ผู้แต่ง โอตสึ อิจิ ผู้แปล สุดารัตน์ นิยมพานิชพัฒนา สำนักพิมพ์ JBOOK (สำนักพิมพ์ในเครือ bliss) ราคา 130 บาท โทรศัพท์สลับมิติเล่มนี้ ยังคงเป็นรวมเรื่องสั้นของโอตสิ อิจิเช่นเคย แต่ถ้าเทียบกับหนังสือเล่มแรกของเขา เล่มนี้ซอล์ฟลงมากว่าเล่มแรกเยอะ มีความอ่อนโยน ละมุน ปะปนอยู่ในเนื้อเรื่องทั้งสามเรื่องในเล่ม โทรศัพท์สลับมิติ เรื่องสั้นเรื่องแรกที่มีชื่อเดียวกับชื่อหนังสือ สะท้อนสภาพสังคมญี่ปุ่น เรื่องราวของกลุ่มคนที่เงียบเหงา แปลกแยกจากสังคมส่วนใหญ่ ในยุคสมัยที่โทรศัพท์เคลื่อนที่กำลังเป็นแฟชั่นสุดฮิตในโรงเรียนมัธยมนั้น เด็กผู้หญิงซึ่งไม่มีเพื่อนคนหนึ่งก็อยากจะมีมือถือเป็นของตัวเอง หรือพูดให้ถูกก็คือ เธออยากจะมีใครสักคนให้โทรศัพท์ไปหาบ้างสักคน แต่ในเมื่อไม่มีคนคนนั้น เธอจึงไม่รู้จะมีโทรศัพท์มือถือเอาไว้คุยกับใคร และแล้ว ในช่วงพักกลางวันที่น่าเบื่อเหมือนทุกๆ วัน เด็กหญิงก็เริ่มจินตนาการถึงโทรศัพท์มือถือของตัวเอง เธอคิดถึงมันอย่างละเอียด ทั้งสี รูปร่าง และการตั้งค่าใช้งานต่างๆ ยิ่งคิดเจ้ามือถือเครื่องนี้ก็ยิ่งสมจริงและมีตัวตนมากขึ้นทุกที และแล้ววันหนึ่ง โทรศัพท์ในจินตนาการของเธอเครื่องนั้นก็มีเสียงดังขึ้น ใครบางคนกำลังโทรเข้ามายังจินตนการของเธอ! หลังจากได้คุยโทรศัพท์ในจินตนาการกับใครสักคนในครั้งนั้น เธอก็ได้เรียนรู้ว่า ไม่ใช่เธอคนเดียวที่เป็นเช่นนี้ จากคนแรก[…]

เรื่อง ฤดูร้อน ดอกไม้ไฟ และร่างไร้วิญญาณของฉัน ผู้แต่ง โอตสึ อิจิ ผู้แปล พรพิรุณ กิจสมเจตน์ สำนักพิมพ์ JBOOK (สำนักพิมพ์ในเครือ bliss) ราคา 125 บาท โอตสึ อิจิ เป็นหนึ่งในนักเขียนเรื่องสั้นชาวญี่ปุ่นที่โด่งดังในบ้านเรา มีผลงานรวมเรื่องสั้นที่ถูกตีพิมพ์ออกมาหลายต่อหลายเล่ม สำหรับเราเอง จำไม่ได้แล้วว่าเล่มแรกของโอตสึที่เราอ่านนั้นคือเรื่องอะไร แต่เท่าที่จำได้ ทุกวันนี้ถ้าเห็นผลงานเล่มใหม่ของโอตสึวางแผงเมื่อไร ก็จะหยิบติดมือมาแบบไม่ต้องคิดทีเดียว เมื่อหยิบผลงานของเขามาอ่านอีกรอบ เลยขอเริ่มต้นจากผลงานเล่มแรกที่เขาเขียนแล้วกัน ฤดูร้อน ดอกไม้ไฟ และร่างไร้วิญญาณของฉัน หนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้น ซึ่งประกอบไปด้วยเรื่องสั้นทั้งหมดเพียงสองเรื่อง คือ “ฤดูร้อน ดอกไม้ไฟ และร่างไร้วิญญาณของฉัน” อันมีชื่อเดียวกับชื่อหนังสือ กับเรื่องที่มีชื่อสั้นๆ ว่า “ยูโกะ” ฤดูร้อน ดอกไม้ไฟ และร่างไร้วิญญาณของฉัน เปิดเรื่องด้วยมิตรภาพของเด็กหญิงวัย 9 ขวบ สองคน ชื่อซัทสึกิกับยาโยย[…]

เรื่อง เบิร์ธเดย์ ปริศนาของผู้สูญหาย ผู้แต่ง ซุสุกิ โคจิ ผู้แปล วราภรณ์ พิรุณสวรรค์ สำนักพิมพ์ JBOOK (สำนักพิมพ์ในเครือ bliss) ราคา 145 บาท ในความเป็นจริงแล้ว เราควรจะเรียกลูปว่าภาคจบบริบริบูรณ์ของซีรีส์ชุดริงก็ได้ แต่นิยายชุดริงนี้ ยังมีเล่มที่สี่ เล่มสุดท้ายอีกหนึ่งเล่ม เป็นเล่มที่เชื่อมรอยต่อที่ขาดหายไปของทั้งสามภาคให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นอีก เบิร์ธเดย์ฯ เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้น รวมภาคต่อของส่วนที่หายไปเหล่านั้น เบิร์ธเดย์ฯ ประกอบไปด้วยตอนสั้นๆ ทั้งหมดสามตอน คือ โลงศพกลางฟ้า, หัวใจซะดะโกะ และแฮปปี้เบิร์ธเดย์ โลงศพกลางฟ้า ฟังชื่อแล้วก็พอจะเดาได้ว่าเป็นตอนของทาคาโนะ ไม แน่ๆ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงสุดท้ายของชีวิตของเธอ เหตุการณ์ในระหว่างที่เธอหายตัวไปอย่างลึกลับหลังดู VDO จบ และถูกพบเป็นศพบนดาดฟ้าของตึก 14 ชั้นแห่งหนึ่ง (จากสไปรัล) เป็นการเติมเต็มที่สุดสยึมกึ๋ยจริงๆ มีฉากการคลอดซะดะโกะด้วย ไม่ได้น่ากลัวนะ แต่ชวนแหวะจริงๆ >,< ในตอนต่อมา[…]

เรื่อง ลูป พิศวงโลกเหนือจริง ผู้แต่ง ซุสุกิ โคจิ ผู้แปล น้ำทิพย์ เมธเศรษฐ สำนักพิมพ์ JBOOK (สำนักพิมพ์ในเครือ bliss) ราคา 200 บาท คำเตือน : เนื้อหาในภาคนี้ สปอยล์ตอนจบของริง คำสาปมรณะ และสไปรัล พันธุ์อาถรรพ์ ในตอนจบของทั้งริงและสไปรัล ผู้เขียนสรุปด้วยการกระทำที่เหมือนกันอย่างหนึ่ง นักวิชาการผู้สืบค้นปริศนาในแต่ละตอน ทั้งนักข่าวในริง และแพทย์ในสไปรัล ต่างไขปริศนาสำเร็จ แต่แล้ว ทั้งสองกลับยินยอมให้กระบวนการแห่งไวรัสดำเนินต่อไป เพียงเพื่อแลกกับชีวิตคนในครอบครัว ลูป เริ่มต้นเรื่องด้วยสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยกับริงและสไปรัล ซุสุกิเปิดเรื่องด้วยครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวหนึ่ง คาโอรุ เด็กชายวัยสิบขวบ ช่างสงสัย ช่างซักถาม มีสนใจความลึกลับของดวงดาวในท้องฟ้า ปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ และภูมิศาสตร์ ฯลฯ มะจิโกะ แม่ผู้เป็นแม่บ้าน และฮิเดยูกิ พ่อ นักวิทยาศาสตร์ผู้ที่เคยเป็นนักวิจัยในโครงการโลกจำลองลูป ในหนังสือทั้งสามเล่มที่ผ่านมา[…]

เรื่อง สไปรัล พันธุ์อาถรรพ์ ผู้แต่ง ซุสุกิ โคจิ ผู้แปล น้ำทิพย์ เมธเศรษฐ สำนักพิมพ์ JBOOK (สำนักพิมพ์ในเครือ อิมเมจ) ราคา 190 บาท ในตอนจบของริง คำสาปมรณะนั้น เป็นตอนจบที่ตอบโจทย์ที่ตั้งไว้ในตอนต้นเรื่องได้กระจ่างแจ้ง แต่มันกลับเป็นปัญหาใหม่ จบคำถามหนึ่งด้วยอีกคำถามหนึ่ง นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ริงฯ มีภาคต่อ .. สไปรัล พันธุ์อาถรรพ์ คำเตือน : เนื้อหาในภาคนี้ สปอยล์ตอนจบของริง คำสาปมรณะบางส่วน ทาคายามะ ริวจิ ชายผู้เป็นเพื่อนกับอาซาคาว่า และช่วยเขาไขปริศนาของซะดะโกะได้อย่างกระจ่างแจ้ง ใน ริง คำสาปมรณะ นั้น กำลังนอนเป็นศพอยู่บนเตียงผ่าศพในขณะนี้ อย่างที่รู้ เขาตายในตอนจบของริงนั่นเอง ตายด้วยสาเหตุเดียวกันกับวัยรุ่นทั้งสี่ตอนต้นเรื่อง! คำสาปยังอยู่!! หญิงสาวผู้พบศพ คือทาคาโนะ ไม นักศึกษาภาควิชาปรัชญา ลูกศิษย์ที่มีความตั้งใจ และมีสมองล้ำเลิศของเขานั่นเอง[…]

เรื่อง ริง คำสาปมรณะ ผู้แต่ง ซุสุกิ โคจิ ผู้แปล น้ำทิพย์ เมธเศรษฐ สำนักพิมพ์ อิมเมจ ราคา 170 บาท อ่านจิตกาธานหนแรกแล้วก็ชวนให้คิดถึงเดอะริง เป็นเพราะว่าแรกเริ่มเดิมที เราเริ่มต้นหยิบเดอะริงซีรี่ส์ (ทั้ง 4 เล่ม) มาอ่านจบก่อนจิตกาธาน นิยายสองเรื่องเข้ามาในชีวิตเราไล่ๆ กัน พออ่านจบทั้งสองเรื่อง เรากลับรู้สึกว่านิยายสองเรื่องนี้มีความคล้ายกันยังไงไม่รู้ เป็นนิยายสยองขวัญเหมือนกัน .. อันนั้นใช่ แต่ความเหมือนยังมีมากกว่านั้นอีก คือใส่ความเป็นวิทยาศาสตร์เข้ามาในนิยายสยองขวัญ เป็นเรื่องของปีศาจความกลัวที่คืบคลานมาหาเราผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ใช้สื่อวิทยุ โทรทัศน์ VDO เป็นการแพร่พันธุ์ความกลัวให้กระจายออกไปสู่คนอื่นๆ ในวงกว้าง เนื้อเรื่องกดดัน เล่นกับความกลัวของคนอ่าน (อันนี้เป็นสูตรเฉพาะของนิยายแนวนี้ ไม่นับ) แต่นั่นแหละ เราว่านิยายสองเรื่องนี้คล้ายกัน (เนอะ) เรื่องย่อของ “ริง คำสาปมรณะ” หรือ “เดอะริง” เป็นเรื่องราวสยองขวัญที่น่าจะกลายเป็นอมตะไปได้แล้ว คนส่วนมากก็รู้เรื่องราวของมันกันมาแล้วทั้งนั้น[…]

เรื่อง จิตกาธาน ผู้แต่ง สรจักร สำนักพิมพ์ มติชน ราคา 210 บาท เราอ่านจิตกาธานครั้งแรกตอนเรียนมหาวิทยาลัย จำได้ว่าหลังอ่านจบ เรายังหลอนติดต่อกันไปอีกหลายวัน แม้มันจะมิใช่นิยายผีแต่ประการใด อ่านหนังสือเล่มนี้จบในครั้งนั้น ก็คืนหนังสือให้แก่ร้านหนังสือที่เราเช่ามาอ่านตามปกติ แต่ก็ยังอดคิดถึงจิตการธานอยู่เรื่อยๆ ประทับใจยืนยาวมาหลายปี พอเติบโต เริ่มมีกำลังทรัพย์ และเริ่มสะสมหนังสืออย่างเป็นล่ำเป็นสันยิ่งขึ้น เรากลับหาจิตกาธานไม่พบอีกเลย จวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ สำนักพิมพ์มติชนได้หยิบจิตการธานกลับมาพิมพ์ซ้ำอีกครั้ง และเราก็รีบแสดงความเป็นเจ้าของทันทีหนึ่งเล่ม .. และหนังสือเล่มที่ว่านั้น ก็เริ่มปลุกความหลอนของเราขึ้นอีกรอบ “ยิ่งดำดิ่งลงไปค้นหาต้นเหตุและพัฒนาการของความผิดปกติในจิตมากเท่าใด เราก็จะยิ่งค้นพบความเกี่ยวพันระหว่างโรคกับผลผลิตอื่นๆ อันเกิดจากการทำงานภายในสมองมนุษย์มากเท่านั้น เราต้องยอมรับความจริงไว้เสมอว่า ระหว่างอารยธรรมอันสูงส่ง กับความกดดันที่มนุษย์เผชิญในสิ่งแวดล้อมที่เป็นจริง มนุษย์ไม่เคยพอใจสภาพที่ดำรงอยู่ เขาจึงจำต้องสร้างจินตนาการแบบตนถึงพอใจเก็บไว้ในใจเสมอ เพื่อเป็นการชดเชยสิ่งที่ขาดไป เป็นการตอบสนองความสุขทางใจ แม้จินตนาการจะเป็นเรื่องเพ้อฝัน แต่สิ่งเพ้อฝันเหล่านี้ยังประกอบด้วยความจริงบางประการ ที่เป็นองค์ประกอบของบุคลิกภาพของบุคคล และมีแนวโน้มของความเป็นจริงที่ถูกเก็บกดไว้ ผู้ที่ขยันขันแข็งและประสบผลสำเร็จ คือผู้ที่รู้จักแปลงจินตนาการเพ้อฝันเหล่านี้ให้กลายเป็นจริงด้วยการทำงาน ส่วนผู้ที่อ่อนแอไม่สามารถเผชิญปัญหาอุปสรรคภายนอกก็จะยึดติดอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ กลายเป็นคนที่มีความคิดฟุ้งซ่าน เขาจะเชื่อมโยงจินตนาการเข้ากับความเป็นจริง (จนไม่อาจจำแนกจากกันได้) และถอยหลังกลับสู่วัยเด็ก …”                                                                                                           […]