เรื่อง เสน่ห์นางฟ้า ผู้แต่ง วิภาภรณ์ สำนักพิมพ์ ประพันธ์สาส์น ราคา 10 บาท ในยุคสมัยที่เครื่องบินพาณิชย์ยี่ห้อแรกๆ ผุดขึ้นบนประเทศไทย แอร์โฮสเตสเป็นอาชีพที่สูงส่ง และน่าใฝ่ฝันสำหรับเด็กสาวๆ ในยุคนั้น (และต่อมาอีกหลายยุคหลายสมัย) แม้แต่ในปัจจุบันนี้ก็เหอะ คำว่า “นางฟ้า” ก็ยังคงมีเสน่ห์ และเป็นความฝันของเด็กๆ อีกหลายคน วิถีชีวิตของแอร์ยุคแรก จึงเป็นที่น่ารู้น่าสนใจสำหรับคนทั่วๆ ไปไม่น้อย เสน่ห์นางฟ้า หนังสือเล่มแรกๆ ที่บอกเล่าถึงความลับพิเศษนั้น แอร์โฮสเตส จึงไม่ใช่อาชีพที่ดีแต่สวย สบาย และรายได้สูงอย่างที่ใครหลายคนเข้าใจ หน้าที่ความรับผิดชอบของสาวๆ เหล่านี้ย่อมสูงตามไปด้วย ความสุขในอาชีพอันแสนอิสระ และสูงส่งในสายตาใครหลายๆ คนนั้น ก็ต้องแลกมาด้วยพละกำลังและสติปัญญาที่เข้มข้น เพราะชีวิตของพวกเธอในบางครั้งก็เปรียบเสมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย ประตูความเสี่ยงในความเป็นหญิงเปิดหมดทุกประตู ต้องตั้งลำหางเสือชีวิตของตนให้ดี เพราะขาดสติลงเมื่อใด ชีวิตบนที่สูงก็พร้อมที่จะร่วงรุนแรงกว่าอาชีพใดๆ นางฟ้าหลายคนก๋ากั่น เก่งกล้าเกินหญิงไทยในยุคนั้น แต่ทั้งหมดทั้งปวงก็เป็นเพียงเปลือกนอก เพื่อที่พวกเธอจะได้เอาตัวรอดจากเสือสิงห์กระทิงแรดต่างแดน พวกเธอมีความเศร้า เหงา และขาด เท่าๆ[…]

เรื่อง เรารู้อยู่แล้วว่าแม่อายุ ๘๘ ผู้แต่ง ชมัยภร แสงกระจ่าง สำนักพิมพ์ คมบาง ราคา 125 บาท ถ้าเล่มก่อน (แม่ลูกปลูกต้นไม้) เรื่องที่ชมัยภรเล่าถึงแม่จะทำให้เราน้ำตาซึมๆ เล่มนี้ต้องเรียกว่าขยี้ความรู้สึกกันเข้าไปอีก เป็นความเศร้าตื้อๆ แต่ก็ซึ้งและอบอุ่น อบอวลไปด้วยความรักของแม่กับลูก ชมัยภรเล่าเรื่องเศร้าด้วยแง่มุมดีๆ ค่ะ เขียนด้วยมุมมองดีๆ แล้วเรื่องดีๆ ก็เกิดขึ้นจริงๆ ตัวอย่างเช่น ในยามที่แม่ของผู้เขียนป่วยไข้ ต้องผ่าตัดมะเร็งอยู่ในโรงพยาบาลศิริราช เมื่อคุณแม่ของผู้เขียนต้องพักฟื้นร่างกายอยู่ในโรงพยาบาลจนกระทั่งถึงวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ คนไข้ในห้องรวม 6 เตียง รวมกับญาติๆ จึงมีโอกาสได้ร่วมดูพลุเฉลิมพระเกียรติอันเป็นมงคล ชวนให้เต็มตื้นในหัวใจจริงๆ ^^ เรารู้อยู่แล้วว่าแม่อายุ ๘๘ เป็นเรื่องจริงในช่วงหนึ่งในชีวิตของผู้เขียนและครอบครัว สามพี่น้องรวมทั้งลูกหลาน ที่ร่วมกันต่อสู้โรคภัยไข้เจ็บ ความทุกข์ ความเศร้า ด้วยความรัก ความดีงาม ต่อกันและกัน ถึงแม้เนื้อหาใจความหลักน่าจะเศร้าหมอง แต่มุมมองและธรรมะ ทำให้หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่เรื่องเศร้าค่ะ ซ้ำยังเป็นกำลังใจอย่างดี .. ให้กับผู้ที่กำลังต่อสู้โรคภัยไข้เจ็บอันหนักหน่วงในชีวิตของตนและญาติมิตรอีกด้วย[…]

เรื่อง หัวใจที่หมางเมิน (2 เล่มจบ) ผู้แต่ง เวฬุรีย์ สำนักพิมพ์ โชคชัยเทเวศน์ ราคา (เล่มละ) 90 บาท (ซื้อมาในราคาหนังสือมือสอง 2 เล่ม 100 บาท) หัวใจที่หมางเมิน เป็นหนังสือที่เราเคยได้ยินชื่อมาตั้งแต่เด็กๆ แม้จะไม่เคยเห็นปกหรือเนื้อใน แต่แม่ก็เล่าถึงอยู่บ่อยๆ เวลาเราได้ยินชื่อหนังสือทีไร ก็ชอบแกล้งเรียกผิดเป็น “หัวใจที่หมาเมิน” พูดทีไร แม่ก็ส่งค้อนให้ทุกที .. วันเวลาผ่านไปนานหลายปี เดินงานหนังสือมาหลายต่อหลายหน และแล้ว เราก็ได้พบกับหนังสือเล่มที่แม่พูดถึงบ่อยๆ แน่นอนค่ะ ตัดสินใจซื้อได้ไม่ยาก .. แต่ที่ยากคือการหยิบมันมาอ่าน .. ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เก็บหนังสือสองเล่มนี้อยู่ในชั้นต่อมาอีกหลายปี ตั้งใจว่าจะอ่านแน่ๆ แต่ก็ไม่เคยรู้ว่าเมื่อไร จนกระทั่งเมื่อวันก่อน อ่านแม่ลูกปลูกต้นไม้ ของชมัยภร แสงกระจ่างจบ จึงนึกถึงหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา คงได้เวลาที่เราจะอ่านมันสักที .. หัวใจที่หมางเมินเปิดเรื่องได้กระชับ ฉับไว และสำนวนดีจังเลย[…]

เหตุเกิดเมื่อวันศุกร์ .. ดูตารางแล้วก็ลังเล .. ตารางที่ว่า คือตารางวันเวลาของงานสัปดาห์ร้านหนังสืออิสระ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 21 – 29 มิถุนายน 2557 นี้ค่ะ งานสัปดาห์ร้านหนังสืออิสระ เป็นงานที่เหล่าร้านหนังสืออิสระทั้งหลายรวมตัว รวมกำลังกันจัดขึ้นค่ะ ไม่ได้ยกพลพรรคไปจัดที่ไหนหรอก แต่ต่างคนต่างจัด ร้านใครร้านมัน เหล่าคณาลูกค้าบ้านอยู่ใกล้ร้านไหน ก็ไปมันร้านนั้น แต่ละร้านก็สรรหานานาไอเดีย เลือกกิจกรรมที่น่าสนใจมากระหน่ำจัดให้พร้อมๆ กัน ยั่วน้ำลายเราแท้ๆ งานเล็กๆ แต่น่ารักนี้ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 แล้ว หลังจากที่ปีแรกเราพลาดไปทุกร้าน อย่างน่าเสียดายสุดซึ้ง ปีนี้ก็ตั้งใจเอาไว้นมนานว่าจะไม่พลาดแน่ๆ แต่พอใกล้ถึงวัน โอกาสชักจะไม่อำนวยน่ะสิคะ อย่ากระนั้นเลย เราหักมุม ไปเสียก่อนงานจะเริ่มนี่แหละ กระหยิ่มยิ้มย่อง ภูมิใจในความคิดตัวเองเสร็จสรรพ ก็เริ่มลงมือจัดตารางการเดินทางให้เบ็ดเสร็จภายในวันเดียว หา!! วันเดียว!! ค่ะ วันเดียว ก็ว่างวันเดียว แต่อยากไปหลายๆ ร้านอ่ะ ไปดูกันดีกว่าค่ะ ว่าท้ายที่สุดแล้ว เราไปได้ทั้งหมดกี่ร้าน[…]

เรื่อง แม่ลูกปลูกต้นไม้ ผู้แต่ง ชมัยภร แสงกระจ่าง สำนักพิมพ์ คมบาง ราคา 150 บาท หนังสือเล่มนี้ แค่บทนำก็น่ารักแล้วล่ะค่ะ ^^ เนื้อเรื่องอบอุ่นน่ารักมาก เริ่มต้นเล่าในตอนที่เป็นวัยเด็ก ที่แม้จะเป็นของใครก็อ่านแล้วชื่นใจ คนเราต่างมีภาพวัยเด็กคล้ายๆ กัน อ่านแล้วพอจะอินตามกันได้ สำหรับในหนังสือ แม่ลูกปลูกต้นไม้ เล่มนี้ ชมัยภร แสงกระจ่าง เป็นทั้งแม่และเป็นทั้งลูก เนื้อหาในหนังสือจึงรวบรวมเรื่องราวเล่าข้ามยุคสมัยหลายสิบปี นับจากรุ่นยายสู่รุ่นหลาน (บางทีก็มีเรื่องเล่าของคุณทวด หรือคุณยายของผู้เขียนแถมมาด้วยนิดๆ หน่อยๆ) เห็นภาพคุณน้าคุณป้าใจดี อารมณ์ดี มีอารมณ์ขัน (แม้เธอจะยืนยันว่าตัวเองใจร้อน) นั่งล้อมวงใต้ร่มไม้ เล่าเรื่องราวในอดีตสนุกๆ เกี่ยวพันกับต้นไม้รอบๆ ตัว (และบางทีก็เรื่องในปัจจุบันนี่แหละ หักลบจากปีที่เขียนกับปีที่อ่าน ก็ย้อนกันไปสิบกว่าปีเอ๊ง..) ครอบครัวคนเมืองที่มักจะส่งเสียงตื่นเต้นรื่นเริง ชื่นชมในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เป็นความสุขที่เกิดขึ้นง่ายๆ ในบ้าน (หรือหน้าบ้าน) คนเขียนยิ้ม คนอ่านก็ยิ้ม ยิ่งช่วงนี้เรากำลังเห่อปลูกต้นไม้[…]

เรื่อง ประกายดาว ผู้แต่ง โอ เฮ็นรี ผู้แปล อาษา ขอจิตต์เมตต์ สำนักพิมพ์ บำรุงสาส์น ราคา (ปก) 35 บาท (แต่ซื้อมาในราคาหนังสือมือสอง 250 บาทถ้วน ^^) (พิมพ์ครั้งที่ 1 เมื่อปีพ.ศ. 2511) เป็นการอ่านหนังสือที่ใช้เวลามากที่สุดในรอบปีแล้ว!! ยังคงอยู่ที่รวมเรื่องสั้นของโอ เฮ็นรีค่ะ อันที่จริง รวมเรื่องสั้นชุดประกายดาวนี้เป็นชุดรวมเรื่องสั้นที่เกิดขึ้นก่อน “พวงเพชร” ค่ะ แต่เราบังเอิญมีความผูกพันกับเล่มโน้นก่อน ได้มาเลยเปิดอ่านก่อน ไม่รออ่านแบบเรียงลำดับ หอบไปอ่านทุกที่ หอบหนังสือเล่มนี้อยู่ครึ่งเดือนกว่า -*- เข็นตัวเอง เมื่อไรจะจบซะที 555 ไม่ใช่ไม่สนุกนะคะ แต่มันเป็นเรื่องแปลที่เราไม่ถนัดอ่า แถมเป็นเรื่องสั้นอีก (ซึ่งก็ไม่ต่างกับพวงเพชร แต่ลำเอียงไง 555) ต้องจำชื่อตัวละครใหม่ทุกเรื่อง (อันนี้เป็นความไม่สามารถส่วนบุคคลค่ะ) โอ เฮ็นรี ยังคงเป็นโอ เฮ็นรีที่เราชอบ[…]

หลังจากที่ซ้อมมือเพ้นท์ฝนกันจนอยู่ตัวแล้ว คราวนี้จะเริ่มอัพเลเวลขึ้นอีกนิดค่ะ ^^ เราจะทำผนังลายจุดกัลล์ ทีแรกเลย เรากะจะด้นสด ไม่ต้องให้มันตรงกันเป็นแพทเทิร์นนัก แต่แล้วไม่ไว้ใจฝีมือตัวเองค่ะ เกรงว่าจะเละเกินเยียวยา เลยยอมตัดพลาสติกทาบเอาละกัน เราใช้วิธีวาดแบบในโฟโต้ชอปนี่แหละ กะขนาดที่ชอบ ปริ้นท์ใส่กระดาษแล้วมาร่างบนแผ่นใสอีกที จากนั้นก็ใช้กรรไกร คัทเตอร์ตัดตามสะดวกค่ะ ฝีมือระดับเรา รู้สึกว่าคัทเตอร์จะกรีดแผ่นใสยากมาก เลยใช้วิธีเจาะแล้วตัดด้วยกรรไกรแทน ผลคือ ไม่มีกลมสักอัน 555 ต้นฉบับที่เป็นแรงบันดาลใจเรา (ใน pinterest อีกแล้ว) เขาใช้วิธีแปะแผ่นใสติดกับผนัง แล้วทาสีทับเลย แต่เท่าที่ดูคุณภาพสีที่ทาบ้านเรา ตอนลอกเทปที่แปะออก สีขาวทำท่าจะลอกตามไปด้วยค่ะ อย่ากระนั้นเลย เราใช้วิธีบ้านๆ นี่แหละ ร่างวงกลงเบี้ยวๆ ตามที่ตัดมาลงบนผนัง แล้วก็เพ้นท์ทีละจุดไปเลย เน้นถึกเข้าว่า อ้อ .. ลืมบอก ใช้สีอะคริลิกเหมือนเดิมนะคะ ขวดเล็กๆ พอค่ะ จะใช้สีทาบ้านกลัวซื้อมาแล้วใช้ไม่หมด สำหรับคนเพ้นท์ .. บอกแล้วเน้นท่ายากไว้ก่อน -*- ค่อยๆ เพ้นท์ไปเรื่อยๆ[…]

เรื่อง พวงเพชร ผู้แต่ง โอ เฮ็นรี ผู้แปล อาษา ขอจิตต์เมตต์ สำนักพิมพ์ บำรุงสาส์น ราคา (ปก) 35 บาท (แต่ซื้อมาในราคาหนังสือมือสอง 250 บาทถ้วน ^^) (พิมพ์ครั้งที่ 1 เมื่อปีพ.ศ. 2511) รีวิวเล่มนี้มีสปอยล์นะคะ! หยิบเล่มนี้มาอ่านลัดคิวก่อนเล่มอื่นใดเลยค่ะ .. รวมเรื่องสั้นของ “โอ เฮ็นรี” ชุดพวงเพชร เหตุเพราะเพิ่งสั่งซื้อออนไลน์จากเฟสบุ๊คหนังสือมือสอง (ศศิบุ๊คค่ะ) พอหนังสือมาส่ง ก็ดี๊ด๊ารับลัดทุกคิว หยิบเล่มนี้มาอ่านก่อนเลย ^^ รวมเรื่องสั้นของโอ เฮ็นรี่ เป็นอีกหนึ่งในความทรงจำวัยเด็กของเราค่ะ เราเคยมีหนังสือเล่มนี้ (ปกอ่อนและพิมพ์ครั้งใหม่กว่านี้) แล้วมันก็หายไป เรื่องราวมันคงจะไม่เฮิร์ตเท่าไร ถ้าเรื่องสั้นเรื่องโปรดที่สุดจะอยู่ในหนังสือเล่มนั้น .. “ส่วนผสมที่สาม” เรื่องราวของสาวตกงานคนหนึ่ง มีเงินซื้อได้แค่เนื้อก้อนเดียว ตั้งใจจะนำกลับมาทำสตูว์ที่บ้าน แต่แล้วพบว่าในครัวของเธอไม่มีหัวหอมและมันฝรั่งเหลืออยู่เลย สตูว์จะเป็นยังไง[…]

เรื่อง ปราบพยศ ผู้แต่ง ศรีบูรพา สำนักพิมพ์ ดอกหญ้า ราคา 135 บาท ความรู้สึกแรกพบเมื่อเปิดอ่านหนังสือเล่มนี้คือ .. ตัวหนังสือตัวโตดีมาก เหมาะกับสายตาของคน (ที่เริ่มจะ) แก่ อย่างข้าพเจ้าจริงๆ 🙂 เป็นเพราะ “ข้างหลังภาพ” แท้ๆ เทียว ที่ทำให้เราคาดหวังกับ “ปราบพยศ” มากไปหน่อย อันที่จริงแล้ว ปราบพยศเป็นนวนิยายที่ค่อนข้างร่วมสมัย (ในสมัยนั้น) มีความล้ำหน้า ก๋ากั่นของนางเอก ซึ่งคงจะนับว่าเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดน่าดูในสมัยนั้น (แต่ในสมัยนี้ถือว่าเด็กๆ ไปเลย) เรื่องของเรื่องก็คือ นางเอกผู้มีชื่อว่า “ยวนใจ” มีความสวยงามเย้ายวนใจสมชื่อ เธอเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มเกือบทั้งพระนคร นางก็เลยเล่นตัวเสียให้สมกับความสวยนั้น ฝ่ายพระเอก นายกมล ดุสิตสมิตรของเราซึ่งได้จากพระนครไปอยู่ทางใต้เสียนาน พอกลับมาได้พบ และได้ยินกิตติศัพท์ของแม่ยวนใจเข้า ก็เลยสนใจ และอยากจะลองดี เรื่องราวของการ “ปราบพยศ” จึงได้เกิดขึ้น แผนการครั้งนี้ของนายดุสิตสมิตร เริ่มต้นด้วยการเข้าไปสมัครงานในตำแหน่งต่ำต้อยของบริษัทนางเอก[…]

เรื่อง ปลายรางมรณะ ผู้แต่ง อีริค โลแมกซ์ ผู้แปล คำเมือง สำนักพิมพ์ สันสกฤต ราคา 350 บาท (พิมพ์ครั้งที่ 1 เมื่อปีพ.ศ. 2555) เสียความรู้สึกนิดหน่อยที่ได้รู้ตั้งแต่บทนำว่าผู้แปลมีอคติต่อชาวผิวขาว และเอาใจช่วยชาวญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้วอย่างนี้จะแปลเรื่องราวที่คนผิวขาวถูกญี่ปุ่นกระทำราวเดรัจฉาน ในระหว่างสร้างสะพานและทางรถไฟออกมาได้อย่างเป็นธรรมหรือ? (จริงๆ ไม่น่าเกริ่นอย่างนี้นะ มันทำให้เราอคติต่อคนแปลตั้งแต่ต้นอ่ะ) แต่ก็ต้องติดตามอ่านข้างในกันอีกที .. สำหรับสำนวนการแปล บางประโยคสละสลวยใช้คำเพราะดีมาก แต่บางประโยคกสำนวนการเรียบเรียงประโยคแปลกๆ เหมือนแปลตรงๆ ทื่อๆ ไม่ได้เกลาอะไรเลย แต่ข้อเสียทั้งหมดทั้งมวลนี้ เมื่อเทียบกับเนื้อหาภายในเล่มอันเลอเลิศแล้ว ถือว่านี่เล็กน้อยมากค่ะ อีริค โลแมกซ์ เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากสงคราม เช่นเดียวกับภาพยนตร์และหนังสืออีกหลายๆ เล่ม หลายๆ เรื่อง ที่ถ่ายทอดให้พวกเราเหล่าพลเมืองผู้ใช้ชีวิต (ส่วนใหญ่) อย่างสงบสุขได้รับรู้ ระหว่างอ่านหนังสือเล่มนี้ ประสบการณ์การเข้าชมพิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด ที่กาญจนบุรี ได้หวนคืนสู่ความทรงจำของเราอีกครั้ง และเชื่อมโยงไปสู่หนังสือเรื่อง[…]