อ่านแล้วเล่า

ไม่มีใครเป็นเจ้าของความหวังเพียงผู้เดียว

เรื่อง ไม่มีใครเป็นเจ้าของความหวังเพียงผู้เดียว
ผู้แต่ง ปาณิส โพธิ์ศรีวังชัย
สำนักพิมพ์ แซลมอน
ในเครือ บจก. บันลือ พับลิเคชั่นส์
เลขมาตรฐานหนังสือ 9786162985164

ไม่มีใครเป็นเจ้าของความหวังเพียงผู้เดียว
คือบทความสารคดีที่รวมความเป็นไทยที่ไทยไม่ยอมรับ
คนชายขอบหาเช้ากินค่ำ อาชีพขายบริการ หวย มวย ม้า ฯลฯ
อีกทั้งยังหยิบยกประเด็นปัญหาของบางประเทศเพื่อนบ้าน
ที่เกี่ยวสัมพันธ์เชื่อมโยงอยู่กับคนไทย

เริ่มต้นบทตอน ผู้เขียนถ่ายทอดหัวใจของผู้คนส่งตรงมายังผู้อ่าน
มาพร้อมกับความร้าวรอน ทุกข์ร้อน ที่ไม่เห็นวันเหือดหาย
เป็นทุกข์ประจำวัน ทุกข์ประจำตัว
เป็นความรู้สึกจริงที่บีบเค้นยิ่งกว่านิยาย
เพราะเรารู้ว่ามันไม่มีตอนจบ ไม่มีวันจบ

ช่วงเวลาเดียวกันนี้เมื่อปีที่แล้ว
เป็นช่วงเวลาที่เชื้อโรคนามว่า โควิด -19 ได้แนะนำตัวกับชาวโลก
ฉากถนนราชดำเนิน เรื่อยไล่ไปถึงข้าวสาร
ร้างไร้ผู้คน
มีเพียงคนตัวเล็กๆ หาเช้ากินค่ำ
ที่ยังต้องอยู่ในพื้นที่เพื่อดำรงทั้งอาชีพและชีวิต

ผู้เขียนเล่าเรื่องของผู้คนหนึ่ง
ส่งต่อไปยังอีกคนหนึ่งตามวาระและจังหวะ

หลายวันที่ริมคลองหลอด ไม่ไกลจากสนามหลวง
ความหวังและความฝันของคนไร้บ้าน และคนขายบริการ
ที่ส่งต่อจากผู้เขียนถึงเรา
ชีวิตเดิมๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่
เล่าขานกันมาก่อนเก่าจนเราเจนหูเจนใจ

บางวันที่ย่านกองสลากเก่า หรือสนามม้าเก่าแก่แต่เก่าก่อน
ความหวัง ความฝันล่องล่อย

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หนังสือไม่ได้มีแต่เรื่องเศร้า
ที่สนุกๆ แปลกๆ และไม่เคยรู้ก็มี อย่างการแทงม้าในสนามม้า ..
ผู้เขียนก็เล่าออกมาอย่างน่าสนุก ได้เห็นความฝันและความหวัง
ไม่ใช่ความโลภ หน้ามืดตามัว

ที่สนามมวยราชดำเนิน ..
เราได้เห็นโครงสร้างห่วงโซ่ซับซ้อน
ซึ่งคงจะแทรกซึมอยู่ในทุกโครงสร้าง ทุกวงการแบบไทยๆ

การเดินเท้าท่องกรุงฯ ของผู้เขียน ทำให้เห็นปัญหาน้อยใหญ่มากมาย
เป็นปัญหาที่เราต่างรู้กันดี แต่ก็ชินชาจนเฉยชา
การอ่านหนังสือเล่มนี้ นอกจากจะทำให้เรามองเห็นปัญหานั้นอีกครั้งแล้ว
ยังทำให้เราพอมองเห็นต้นตอ และมองเห็นหนทางแก้ไขขึ้นมาบ้าง

อ่านหนังสือเล่มนี้ .. เราเพิ่งรู้สึกว่า
เราได้รู้จักกรุงเทพฯ มากขึ้นกว่าที่เคยรู้จักมาทั้งชีวิต

นอกจากกรุงเทพฯ ..
ว่าด้วยปัญหาของการถือครองที่ดิน
เมื่อเจ้าของบ้านไม่ใช่เจ้าของที่ ..
ความทุกข์ร้อนซ่อนเก็บบางความหวังและความฝัน
จากที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา ข้ามประเทศมาที่สีหนุวิลล์ กัมพูชา

ส่งผ่านมายังทวาย กับคำถามให้เลือกว่าพัฒนาหรืออนุรักษ์?
ในคำว่าพัฒนา ไม่ควรมีใครต้องเดือดร้อน
สองฝ่ายที่แยกกันยืนอยู่สุดปลายฝั่งของตัวเองนั้น
ในโลกแห่งความจริงแล้ว
สามารถอยู่ร่วมบนฝั่งและฝ่ายเดียวกันได้หรือไม่?

ยังมีเรื่องราวอีกมากมายในหนังสือเล่มนี้ที่รอให้อ่าน
ให้ได้รับรู้ถึงความทุกข์ยากในชีวิตผู้คน

เรื่องทั้งหมดเล่าด้วยสำนวนภาษาที่ดี
ไม่สวยงามเพ้อฝัน แต่ก็สละสลวยอ่านลื่น
เป็นสารคดีที่มีลูกเล่น ไม่ทื่อตรง
มีบรรยากาศ มีชีวิตผู้คน มีข้อมูลอ้างอิง ทุกสิ่งรักษาสมดุลกันลงตัว

สุดท้ายแล้ว หลายชีวิตก็ยังต้องผจญกับปัญหา
เป็นปัญหาที่มนุษย์สร้างให้กับมนุษย์ด้วยกันเอง
เป็นปัญหาที่สั่งสมกันมานานรุ่นทบรุ่น ฝั่งรากหยั่งลึก
แต่ท่ามกลางกองปัญหา
ทุกชีวิตก็ยังคงมีความฝันและความหวังที่จะมีชีวิตที่ดีกว่าที่เป็นอยู่
ไม่ใช่ความฝันที่เกินตัว ไม่ใช่ความหวังที่เกินเลย
เราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะฝันและหวัง
ไม่มีใครเป็นเจ้าของความหวังเพียงผู้เดียว

ปล. ขอบคุณสำนักพิมพ์แซลมอน ที่ส่งหนังสือเล่มนี้มาให้เราค่ะ
หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ดีมาก ดีใจที่ได้อ่านค่ะ ?

Comments are closed.