อ่านแล้วเล่า

อ่านหนังสือเล่มนี้เถอะ..ที่รัก

60-1 อ่านหนังสือเล่มนี้เถอะที่รัก

เรื่อง อ่านหนังสือเล่มนี้เถอะ..ที่รัก
ผู้แต่ง ไพลิน รุ้งรัตน์
สำนักพิมพ์ คมบาง
ราคา 130 บาท

หนังสือดีหรือไม่ดี ชอบหรือไม่ชอบ .. บางทีก็เป็นเรื่องเฉพาะตัวจริงๆ
นับประสาอะไรกับคนอื่น
หนังสือเล่มหนึ่งที่เคยอ่านแล้วไม่ชอบ ..
วันเวลาผ่านไป กลับกลายเป็นชอบก็ถมเถ ..
อย่างเช่นเล่มนี้ไงคะ

อ่านหนังสือเล่มนี้เถอะ .. ที่รัก เรียบ เนิบ แบบที่อ่านตอนเด็กๆ แล้วเคยไม่ชอบ
แต่เมื่อเดินทางมาถึงวัยครึ่งคน กลับรู้สึกว่ามันอบอุ่นและชื่นเย็นไปพร้อมๆ กัน
มันเรียกอมยิ้มน้อยๆ จากเราได้ตลอดเรื่อง
ประสบการณ์ชีวิตได้เปลี่ยนนิยายเรื่องหนึ่งที่เคยอ่านแล้วเฉยๆ เบื่อๆ
กลายเป็นนิยายที่กระแทกใจอย่างแรง ทั้งขมขื่น ทั้งตื้นตันจนทำให้น้ำตาซึม

อ่านหนังสือเล่มนี้เถอะ..ที่รัก คือบทความสั้นๆ ที่จับพลัดจับผลูได้กลายมาเป็นนิยายค่ะ
เป็นเรื่องราวของหมอหนุ่มกับหญิงสาวผู้เป็นหลานสาวเจ้าของคนไข้จำเป็นรายหนึ่ง
หมอจุลละถูกขอร้องแกมบังคับให้ต้องมาตรวจอาการคนไข้ของเพื่อน ถึงที่บ้านในวันหนึ่ง
คนไข้ผู้นี้มีนามว่าคุณย่าบัว เป็นคุณย่าที่เป็นหนอนหนังสือตัวยง
บ้านของคุณย่าบัวตั้งอยู่ในรั้วรอบขอบชิดของบ้านไทยยุคเก่า
บริเวณบ้านเต็มไปด้วยไม้ดอกไม้ผลร่มรื่น
ผู้คนในบ้านมีวิถีชีวิตที่เงียบเชียบ เรียบสงบ

60-2 อ่านหนังสือเล่มนี้เถอะที่รัก

บ้านของคุณย่าบัวผู้นี้ เป็นบ้านที่เต็มไปด้วยหนังสือ
บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเจ้าของบ้านอ่านหนังสือ และรักหนังสือ
และเจ้าของบ้าน ไม่ใช่มีเพียงแต่คุณย่าบัวเท่านั้น ..
ลมเย็น หลานสาวแสนสวยของคุณย่าก็รักหนังสือด้วยเช่นกัน

คุณหมอที่ไม่รักการอ่าน ก็เลยต้องทำเป็นรักทำเป็นสนใจหนังสือขึ้นมา
เพราะบังเอิญไปตกตะลึงความงามของลมเย็น หลานสาวคุณย่าบัวนี่เอง

60-3 อ่านหนังสือเล่มนี้เถอะที่รัก

ก่อนกลับบ้านวันนั้น หมอจุลละก็ได้รับหนังสือติดมือกลับมาบ้านถึงห้าเล่ม
ห้วงมหรรณพ ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
ชั่วชีวิต ของ อ.อุดากร
ปราสาทมืด ของ จุลลดา ภักดีภูมินทร์
เสเพลบอยชาวไร่ ของ รงค์ วงษ์สวรรค์ และ
จอห์นนี่ไปรบ ของ ดอลตัน ทรัมโบ
โดยทั้งห้าเล่มนี้ ลมเย็นเป็นผู้เลือกให้คุณหมอทั้งสิ้น

60-4 อ่านหนังสือเล่มนี้เถอะที่รัก

หนังสือห้าเล่มที่ขอยืมมาเป็นสิ่งเตือนตาเตือนใจหลานเจ้าของหนังสือ
กลายเป็นหนามสะกิดใจหมอจุลละอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
และแล้ว เขาก็ตัดสินใจหยิบเล่มแรกมาอ่าน ..

หนังสือเล่มแรกที่เขาเลือกหยิบมาอ่านคือ ชั่วชีวิต ของ อ.อุดากร
ลมเย็นเลือกหนังสือเล่มนี้ให้เขาด้วยเหตุผลที่ว่า ผู้เขียนเรียนหมอเช่นเดียวกับเขา
เพียงสองเรื่องสั้นจากหนังสือเล่มนี้ก็ทำให้เขาหวนคิดถึงความหลัง ..
ความหลังของเขาและพ่อ

การอ่านนั้น เมื่อเริ่มต้นไปแล้วก็เหมือนกับการอุ่นเครื่องได้ที่
จากเรื่องสั้นเรื่องแรกในเล่ม เขาค่อยๆ เขยิบไปอย่างช้าๆ ทีละเรื่อง คืนละเรื่อง
เพียงร่วมสัปดาห์ หมอจุลละก็ทำความรู้จักและหลงรัก (ตัวหนังสือของ) อ.อุดากร
ไปในทันทีที่อ่านจบ
จากนั้น เขาก็เริ่มตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือเล่มแล้วเล่มเล่าที่ลมเย็นคัดเลือกมาให้

และเมื่อสิ้นสัปดาห์ และคุณหมอได้พบกับลมเย็นอีกครั้ง เขาก็ได้รับหนังสือชุดใหม่มาอีก
อาทิเช่น จำปูน ของเทพ มหาเปารยะ
ข้างหลังภาพ และ สงครามชีวิต ของศรีบูรพา เป็นต้น
หนังสือชุดเก่ายังอ่านไม่ทันจะจบดี แต่เขาก็อ่านไปอย่างไม่ย่อท้อ
และเริ่มดื่มด่ำกับความสุขจากการอ่าน

เขาตะลุยเข้าไปในดงหนังสือ โดยมีไกด์นำทางคือลมเย็น
บุกฝ่าค้นหาความหมายและเป้าหมายของชีวิต
ใช้หนังสือเป็นแผนที่การเดินทาง ..
ใช้หนังสือเป็นคำตอบของความสับสนที่ไม่สามารถแม้จะตั้งเป็นคำถาม

ความสัมพันธ์ระหว่างคุณหมอและหลานสาวคนไข้ค่อนข้างจะลุ่มๆ ดอนๆ
เพราะคุณหมอของเราปากหนัก และมักคิดเองเออเอง

ผู้เขียนได้แทรกปมความสัมพันธ์ที่สำคัญเอาไว้สองเรื่อง
คือระหว่างลมเย็นกับหมอจุล และหมอจุลกับพ่อ ..
เนื้อเรื่องปะปนไปด้วยความกดดัน ความสับสน .. ของคนหลงทาง

60-6 อ่านหนังสือเล่มนี้เถอะที่รัก

หนังสือเล่มนี้มอบบทพระเอกให้กับมนุษย์สุดแสนที่จะเป็นปุถุชนที่สุด
พระเอกที่ไม่ได้มีคุณสมบัติของพระเอกแสนดี .. หมอจุลละเป็นพระเอกเอาแต่ใจ
อารมณ์หงุดหงิดก็ขับรถไม่ระมัดระวังจนหวิดจะเกิดอุบัติเหตุหลายหน

เป็นหมอ แต่ก็ไม่ได้มีจิตใจเมตตากรุณาต่อคนไข้อย่างที่หมอควรจะมี
แถมยังพาลพาโล ขี้อิจฉา อารมณ์ขึ้นลงเอาแน่เอานอนไม่ได้สารพัด

แต่พระเอกที่เป็นคนธรรมดาๆ นี้เอง ..
ที่จะสามารถฝ่าฟันเส้นทางขรุขระในใจตน จากคนที่ขุ่นคลั่กไปด้วยนานาอารมณ์
และสามารถพัฒนาจิตจนมารู้เท่าทันใจตนเองในที่สุด

60-5 อ่านหนังสือเล่มนี้เถอะที่รัก

อ่านหนังสือเล่มนี้เถอะ..ที่รัก ได้ผนวกรวมการอ่าน การเรียนรู้ชีวิต การเรียนรู้ตนเอง
และนิยายรักโรแมนติคเอาไว้ลงตัวอย่างน่าทึ่ง
.. รักใครบอกเขาไปเถิดค่ะว่า .. อ่านหนังสือเล่มนี้เถอะ..ที่รัก ^^

Comments are closed.