อ่านแล้วเล่า

สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็น

115-2 สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็น

เรื่อง สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็น
ประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลงการปกครอง ๒๔๗๕

ผู้แต่ง ม.จ.พูนพิศมัย ดิศกุล
สำนักพิมพ์ ศิลปวัฒนธรรม
(สนพ. ในเครือสำนักพิมพ์มติชน)
ราคา 155บาท

สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็น เป็นต้นฉบับถูกพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ดีดแบ่งแยกออกเป็นหลายฉบับ
โดยที่ส่วนแรกขาดหายไปไม่ถูกค้นพบ
ส่วนที่ถูกค้นพบนั้น เริ่มต้นที่หน้า 267 – 349, และหน้า 350 – 426 อันจบบริบูรณ์
หากแต่มีอีกหนึ่งฉบับซึ่งเริ่มต้นที่หน้า 350 เช่นกัน และจบลงที่หน้า 458
ฉบับที่ว่านี้ เป็นฉบับที่เริ่มต้นเล่าเรื่องในปลายรัชสมัยของรัชกาลที่ 6
และต้นรัชสมัยของรัชกาลที่ 7 ตั้งแต่เริ่มครองราชย์จวบจนสิ้นรัชกาล
และต้นฉบับฉบับนี้นี่เองที่ถูกตีพิมพ์ขึ้นเป็นหนังสือเล่มนี้
รายละเอียดทั้งปวง ถูกบอกเล่าเอาไว้ในส่วนของคำนำสำนักพิมพ์เรียบร้อยแล้ว
(ภายหลังเห็นสำนักพิมพ์มีพิมพ์ฉบับสมบูรณ์ด้วยนะคะ
ถ้ามีโอกาสคงได้หยิบมาอ่านและเล่าสู่กันฟังอีกที)

หนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของชนชาติไทยเรานั้น
มีด้วยกันอยู่หลายเล่ม หลายคนเล่า
ทั้งๆ ที่ประวัติศาสตร์ที่ว่า ก็มีอยู่เรื่องราวเดียวกันนั่นแหละ
ที่ใครๆ ก็รู้ แล้วก็ต่างหยิบกันไปเล่า
หากแต่ความรู้สึกของผู้เล่าที่ใส่ลงไปในวิธีเล่าต่างหาก ที่ทำให้หนังสือแต่ละเล่มไม่เหมือนกัน

สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็นฯ เล่มนี้
เป็นเรื่องทั้งหมดถูกนิพนธ์ขึ้นจากความทรงจำของผู้ทรงนิพนธ์
เรื่องที่ทรงนิพนธ์จึงถูกถ่ายทอดออกมาจากความรู้สึกนึกคิดแท้ๆ อย่างผู้ที่ทรงพบเห็นจริง
เรื่องราวในหนังสือ เริ่มต้นเมื่อปลายรัชกาลที่ 6 คาบเกี่ยวช่วงต้นรัชกาลที่ 7
บันทึกเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ในช่วงนั้น
รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นสำคัญ
ในตอนจบของเล่ม ก็คือช่วงสิ้นสุดของรัชกาล
คือการสละราชสมบัติของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ
และการสวรรคตของพระองค์ท่าน
เป็นการจบเล่มที่สลดหดหู่ใจเป็นที่สุด

115-1 สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็น

ในช่วงต้น ที่ทรงเล่าถึงเหตุการณ์อันเกี่ยวเนื่องกับเจ้านายหลายพระองค์
พระนามที่ทรงบันทึก ก็เป็นพระนามลำลอง อ่านไปก็ต้องคอยเสิร์ชกูเกิ้ลไปว่า
พระนามลำลองนี้เป็นพระนามพระองค์ใด ^^”
แต่พออ่านไปสักพักก็จะเริ่มชิน แล้วทีนี้ก็เริ่มสนุก

มีหลายช่วงที่ถูกเซ็นเซอร์ชื่อและพระนามผู้ที่เกี่ยวข้องและอาจมีผลกระทบนั้น
ก็ทำเอาอ่านไม่รู้เรื่องไปเป็นช่วงๆ อยู่เหมือนกัน
ความรู้รอบตัวก็ไม่ค่อยจะมี จะเดาก็เดาไม่ถูก ได้แต่งงไปตามระเบียบ

แต่ถ้าตัดเรื่องงงๆ เฉพาะบางพระองค์ออกไปแล้ว
สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็น ก็เป็นหนังสืออีกเล่มที่ได้บันทึกประวัติศาสตร์ช่วงสำคัญของไทยเอาไว้
เหมาะแก่การอ่านเพื่อได้รู้และเข้าใจรากเหง้าของเรา
เข้าใจจุดเริ่มต้นของประชาธิปไตย ในอีกมุมมองหนึ่ง
เป็นหนังสือประวัติศาสตร์อีกเล่ม ที่มีอรรถรสไม่ซ้ำเล่มใดที่เคยอ่านค่ะ

Comments are closed.