อ่านแล้วเล่า

สาปพระเพ็ง

05 สาปพระเพ็ง

เรื่อง สาปพระเพ็ง
ผู้แต่ง กิ่งฉัตร
สำนักพิมพ์ อรุณ (สนพ. ในเครืออมรินทร์)
ราคา 315 บาท

หยิบ “สาปพระเพ็ง” มาอ่านอีกครั้งด้วยสาเหตุที่เดาไม่ยาก
ใช่แล้วค่ะ อีกไม่ถึงอาทิตย์ ละครเรื่องสาปพระเพ็งจากค่ายเป่าจินจง
ก็จะเริ่มออกอากาศในวันจันทร์ – อังคาร ทางช่อง 3 แล้ว
นี่เลยสาเหตุหลักที่ทำให้หยิบหนังสือเรื่องนี้มาอ่านอีกเป็นรอบที่ 2

แม้จะอ่านนิยายของกิ่งฉัตรมาเกือบ 30 เรื่อง
(คืออ่านทุกเรื่องของนามปากกานี้น่ะนะ)
และผ่านนิยายย้อนยุคมานับไม่ถ้วน
แต่พอกิ่งฉัตรมาเขียนนิยายย้อนยุค …
(อย่างที่เคยใฝ่ฝันอยากอ่านนิยายแนวนี้จากนักเขียนคนโปรดคนนี้บ้าง)
มันกลับไม่คลิก ไม่โอเคอย่างที่หวังใจไว้เท่าไร

การเล่าเรื่อง เป็นการเล่าแบบยุคอดีตสลับยุคปัจจุบัน
แถมด้วยตัวละครโผล่มาเป็นกองทัพ
(กองทัพจริงๆ แถมเป็นกองทัพของ 2 ฝ่ายด้วย)
เปิดตัวละครทีเป็นหน้ากระดาน ยุคอดีตแก๊งนึง ยุคปัจจุบันอีกแก๊งนึง
ทำให้ค่อนข้างจะสับสนใจการจดจำตัวละครในช่วงแรกๆ
ต้องตั้งสติดีๆ แล้วอ่านรวดเดียว
ถ้ามีนิสัยหยิบวาง หยิบวาง อ่านแล้วพักไปทำอย่างอื่นแบบเราละก็
กลับมาอีกทีมีมึน ต้องมานั่งไล่เรียงกันใหม่ว่าใครเป็นใคร

แต่พอผ่านช่วงแรกไปได้สักระยะนึงแล้ว
เนื้อเรื่องก็พอชวนให้ติดตามอยู่บ้างค่ะ
มีตัวละครที่ช่วยสร้างสี (แสบ) สัน อย่างเจ๊วิกกี้
ซึ่งจริงๆ แล้วเจ๊วิกกี้ยังแสบน้อยกว่าอลิน (จากสูตรเสน่หา) นะคะ
แต่ไม่รู้ทำไม ถึงน่าหมั่นไส้ และไม่น่ารักเท่าอลิน
แรงดึงดูดจากเจ๊วิกกี้เลยดูจะดร็อปไปหน่อย
อีกหนึ่งอย่างที่ชวนติดตามก็คือ การทายตัวละครว่าใครจะกลับชาติมาเกิดเป็นใคร
คู่พระคู่นางนั้นไม่ยากค่ะ เห็นกันโต้งๆ
แต่ตัวละครอื่นๆ นี่สิ คนเขียนตั้งใจหลอกกันชัดๆ (ฮา)

แม้ว่าสำนวนภาคอดีตจะไม่ค่อยถูกใจเราเท่าไร
แต่พล็อตและสำนวนภาคปัจจุบันนั้น ยังเป็นกิ่งฉัตรเต็มร้อยค่ะ

หลังจากรู้ว่านิยายเรื่องนี้จะเอามาทำเป็นละคร
และตามข่าวละครมาสักระยะแล้วนั้น ทำให้รู้ว่ามีการเปลี่ยนบท เปลี่ยนตัวเยอะพอดู
เป็นอันรู้แน่แล้วว่ามีการเปลี่ยนบทเปลี่ยนตัวแม่ทัพชายเป็นแม่ทัพเบ๊นซ์
เปลี่ยนโหราเฒ่าเป็นโหราวัยกระเตาะอเล็กซ์
เปลี่ยนเจ้านางอินยากับเจ้าปันแสง ซึ่งไม่มีบทในภาคปัจจุบัน
ให้กลายมาเป็นตัวละครสำคัญของเรื่องอย่างเพชรดา กับพัทธยา
ตอนข่าวออกใหม่ๆ เสียงบ่นจากแฟนคลับระงมทีเดียวค่ะ
แต่โชคดีที่เล่มนี้ไม่ใช่เรื่องโปรดของเรา เลยพอให้มองเป่าจินจงอย่างเข้าใจได้ไม่ยาก
เสียดายแต่เพียงว่า อรรถรสในการเดาว่าใครกลับชาติมาเกิดเป็นใครคงหายไปเยอะ
ทั้งๆ ที่ตอนอ่านทั้งลุ้นทั้งเดาอย่างเมามันส์

โดยรวมแล้ว แม้สำนวนที่เขียน (ในภาคอดีต) จะไม่โอเท่าไร
แต่ถ้าเป็นเรื่องพล็อตแห่งความซับซ้อนซ่อนเงื่อน กิ่งฉัตรไม่เป็นรองใครค่ะ
ดังนั้นถ้าเป่าจินจงเอามาทำดีๆ (ซึ่งคงดี เพราะเป็นละครฟอร์มยักษ์)
ละครเรื่องนี้น่าจะออกมาสนุกและน่าติดตามได้ไม่ยาก
ถ้าดูละครแล้วสนุก ลองหยิบสาปพระเพ็งมาเปิดอ่านดูบ้างนะคะ ^^

05-2 สาปพระเพ็ง

เรื่องย่อ

สาปพระเพ็ง เป็นนิยายที่มีเนื้อหาเล่าถึงเมืองสมมติที่เคยเกิดขึ้นเมื่อพันปีก่อน
ในยุคที่มนุษย์ยังรบราเพื่อแย่งชิงดินแดนกันเพื่อความอยู่รอดอยู่นั้น
ยังมีเจ้าเมืององค์หนึ่ง (องค์นรสิงห์สีหบดี) ซึ่งทรงมองการณ์ไกลว่า
เหล่าเมืองน้อยใหญ่ที่มีอาณาเขตใกล้เคียงกันนี้ ถ้าไม่รวมกันให้มั่นคงละก็
ต่อไปภายหน้าหากมีศึกใหญ่จากภายนอกเข้ามา
เมืองเล็กเมืองน้อยเหล่านี้จะทานกำลังไม่ไหวแน่ๆ
พระองค์จึงทรงคิดที่จะทำการรวบรวมหัวเมืองน้อยใหญ่ในอาณาบริเวณโดยรอบเข้าด้วยกัน
ซึ่งการณ์ก็ดำเนินไปด้วยดีจวบตนกระทั่งตอนที่เคลื่อนทัพเพื่อมาตีเมืองเล็กเมืองหนึ่งเพื่อเป็นเมืองขึ้น
เรื่องราวเกิดขึ้นตรงนี้ …
วิธีที่กษัตริย์องค์นั้นทรงตัดสินพระทัยกระทำได้สร้างผลกรรมร้อยรัดผู้คนกลุ่มหนึ่งเข้าไว้ด้วยกัน
ผูกพันกันไว้ยาวนานนับพันปีต่อมา

ในยุคปัจจุบันคนกลุ่มนี้ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ได้รัก ได้เกลียด ได้ทะเลาะเบาะแว้งตบตี
(จริงๆ ก็มีคนตบตีคนอื่นอยู่เดียวอ่ะนะ ;P)
คนทั้ง 4 ต้องมาร่วมแก้ปัญหาเดียวกัน
ปัญหาปัจจุบันที่จะช่วยสะสางปัญหาที่ค้างคาจากอดีตไปด้วย
เดาไม่ยากว่าเรื่องนี้จบแฮปปี้เอนดิ้งตามแนวกิ่งฉัตร
แต่กว่าจะจบ ก็มีให้ลุ้นทั้งเรื่องยุคอดีต และยุคปัจจุบันอีกหลายตลบ
ยิ่งใกล้จบยิ่งวางไม่ลง ทั้งสนุก ทั้งฮาตัวสี (แสบ) สันของเรื่อง
และถ้าอ่านจบก่อนดูละคร คุณจะลุ้นตอนจบได้สนุกกว่าดูจากละครแน่ๆ ค่ะ
เร่งมือนิดนะคะ อีกไม่กี่วัน ละครจะออนแอร์แล้ว ^^

หมายเหตุ : ในภาคนิยายตอนจบของเรื่อง กิ่งฉัตรได้ทิ้งท้ายแบบบอกเอาไว้ใบ้นิดๆ
ว่า บาปของนรสิงห์ฯ ไม่ได้หมดลงเพียงเท่านี้
แปลกันโต้งๆ ว่าหนังสือเรื่องนี้มีภาคต่อแน่ๆ ..
ทีนี้ก็ขึ้นกับกิ่งฉัตรแล้วล่ะค่ะ ว่าจะปล่อยให้แฟนๆ รอนานกันแค่ไหน
มาเข้าคิวรอด้วยกันนะคะ ^^

Comments are closed.