สวามีจงชัง
เรื่อง สวามีจงชัง
ผู้แต่ง วิภาภรณ์
สำนักพิมพ์ บำรุงสาส์น
ราคา 70 บาท
เทียบกันจะจะระหว่างนิยายสองเรื่องของผู้เขียนคนเดียวกัน
หัวใจที่มางเมิน (วิภาภรณ์เขียนด้วยนามปากกา ‘เวฬุรี’ ) กับสวามีจงชังเล่มนี้
นิยายสองเรื่องมีความคล้ายคลึงกันอยู่หลายจุด
เน้นหนักในส่วนเค้าโครงเรื่อง แม้กระทั่งในตอนจบ ผู้เขียนก็ยังทิ้งปมปัญหารอความคลี่คลายเอาไว้คล้ายกัน
แต่สวามีจงชังคือส่วนขยาย และมีรายละเอียดที่มากกว่า ทำให้แตกต่างออกไป และสนุกกว่าเดิม
ว่ากันว่านักเขียนมักจะเขียนถ่ายทอดบางสิ่งบางอย่างที่ลอยวนเวียนอยู่รอบๆ ตัว
การเขียน บางทีก็เป็นการระบายความรู้สึกเหล่านั้น …
สวามีจงชัง เป็นเรื่องราวของคู่สมรสข้าวใหม่ปลามันคู่หนึ่ง
เป็นคู่สมรสที่ออกจะดูแปลก (และแปลกมากขึ้นไปอีก เมื่อมาดูกันด้วยค่านิยมยุคนี้)
วรฤทธิ์ ชายหนุ่มครอบครัวมีสกุลผู้เคยหลงรักรุ่นน้องนักศึกษาที่ชื่อเพิร์ลมานานปี
วันหนึ่งเมื่อเขาอกหักอย่างรุนแรง เพราะเธอไปแต่งงานใหม่กับมหาเศรษฐีผู้หนึ่ง
เขาก็เศร้าโศกเสียใจ และทำร้ายตัวเองด้วยการหมกตัวเองอยู่กับสุรา
ในความเศร้าเสียใจนี้เอง ผู้หญิงคนหนึ่งมองเห็นและให้สงสารอยู่ห่างๆ
แล้วโชคชะตาก็เล่นตลก เมื่อวรฤทธิ์ตกปากขอแต่งงานเธอไปแบบส่งๆ
แรงสงสารก็ส่งให้เธอตกปากรับคำอย่างง่ายดาย และนั่นคือที่มาของวิวาห์อันแสนเศร้านี้
ชีวิตหลังแต่งงานของวัลย์ลดาเริ่มต้นด้วยความทุกข์ตรม
วรฤทธิ์โทษเธอว่าใจง่าย เขาขอเพียงครั้งเดียวกลับตกปากรับคำโดยง่าย (อะไรฟระ!!)
ในขณะที่เพิร์ลรักแรกของเขายังคงสูงส่ง แม้เธอจะแต่งงานไปแล้วกับคนอื่น (โคตระสองมาตรฐานอ่ะ)
เขาก่นด่าภรรยาตัวเองต่างๆ นานา หาทุกวิธีทำให้เธอเจ็บช้ำน้ำใจ
ยังคงกินเหล้าเมาหัวราน้ำ แม้เธอเพียรดูแลอย่างดีแต่เขาก็ไม่เคยเห็นค่า
จนแม้มีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน ชีวิตสมรสก็ยังคงเป็นอยู่อย่างนี้
โชคของวัลย์ลดายังดี ที่แม่สามีและน้องสามียังดี เห็นอกเห็นใจและคอยปัดเป่าทุกข์นั้นบ้าง
ส่วนเพิร์ลเล่า ชีวิตลูกเมียน้อยของเธอทำให้แม่เป็นผู้ผลักดันลูกสาวให้ได้ดีทุกอย่าง
เธอเองก็มีใจทะเยอทะยานไม่ต่างจากแม่
เธอทิ้งวรฤทธิไปแต่งงานกับคนที่รวยกว่าหลายร้อยหลายพันเท่า
เพื่อแลกกับการที่เธอจะได้ยืนอยู่บนจุดสูงสุด เหนือกว่าใครทุกคนที่เคยเหยียบย่ำเธอ
ยังคงมีความจริงของชีวิตมนุษย์แทรกในนิยายเสมอ
ชีวิตของหญิงสาวที่สวยที่สุด โชคดีที่สุด ที่ได้สมรสกับชายผู้ร่ำรวยมหาศาล
เป็นที่น่าอิจฉาของใครต่อใครที่ได้พบเจอ
ฉากหลัง เพิร์ลกำลังร้องไห้ …
สามีที่รวย ไม่ได้แปลว่าดี ความกักขละของเขาสร้างความเจ็บช้ำให้เพิร์ลเสมอ
เปล่าเลย เขาไม่ได้ลงมือทำร้ายเธอ แต่ความหยาบในนิสัย
และการแต่งงานด้วยต่างฝ่ายต่างหวังผลของกันและกัน
ทำให้ชีวิตสมรสของเพิร์ลก็ทุกข์ทรมานไปไม่น้อยกว่าวัลย์ลดาเลย
แล้วชีวิตของผู้หญิงสองคน ก็ต่างทุกข์ตรมในชีวิตสมรสไปทั้งคู่
คนหนึ่งเป็นฝ่ายถูกกระทำ ในขณะที่อีกฝ่ายเป็นผู้กระทำ
และก็หาใครมีความสุขไม่ได้
ว่ากันว่า คนเราเมื่อเจ็บจนสุดจะทนแล้ว สุดท้ายเธอผู้นั้นก็เลิกทนเอาจริงๆ
ในวันที่วรฤทธิ์ดูถูกวัลย์ลดาจนถึงที่สุด เธอก็เลิกแคร์เขา เลิกใส่ใจในทุกสิ่งที่เป็นเขา
และนั่น .. เธอเริ่มเป็นไทแก่ตัว
การพบกันครั้งแรกและครั้งต่อมาของเพิร์ลและวัลย์ลดาออกจะแปลกๆ อย่างที่เราไม่ค่อยพบในนิยายเล่มไหน
เมื่อภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมายได้พบกับคนรักเก่าของสามี
คนที่เขาไม่เคยลืม แถมยังยกย่องเชิดชู นำหญิงคนนั้นมาเปรียบเทียบทับถมให้เธอเจ็บช้ำน้ำใจเสมอๆ
ฉากพบกันของคนสองคน ในเวลาที่เพิร์ลไม่รู้ว่าวัลย์ลดาคือใคร แต่ฝ่ายวัลย์ลดารู้เต็มอก
เธอกลับมีใจเป็นธรรมพอที่จะเข้าใจเพิร์ล
อดคิดนิดๆ ไม่ได้ว่าผู้เขียนเป็นเฟมินิสต์ด้วยซ้ำ
จังหวะการพบกันระหว่าง ‘เมียหลวง’ กับผู้ที่ทำท่าจะสมัครครองตำแหน่งมือที่ 3 นั้นจึงราบรื่นและเป็นมิตรผิดคาด
โดยรวมๆ แล้ว นิยายเรื่องนี้เล่าระบายด้วยสำนวนเริ่ดรื่นหู (จริงๆ อ่านในใจอ่ะ)
ตั้งแต่อ่านนิยายของวิภาภรณ์มา เราชอบเรื่องนี้มากที่สุด มันมีจิตวิญญาณ มีความรู้สึก
ตัวละครมีมิติ มีความคมชัด
คนที่ถูกมองเป็นตัวร้าย ก็ขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายไหนเป็นคนมอง และมองจากมุมใด
แม้คนเดียวกันเป็นฝ่ายมอง แต่ต่างเวลา ต่างสถานการณ์
ผู้ถูกมองคนเดิมนั้นก็ไม่เหมือนเดิมได้
ไหนๆ หนังสือเล่มนี้ก็หายาก และยังไม่มีแนวโน้มที่จะได้พิมพ์ใหม่ในเร็ววันนี้
เราเลยจะขอสปอยล์ตอนจบไปด้วยเสียเลยละกัน
ในตอนท้ายของเรื่อง .. ท้ายที่สุดหญิงสาวสองคนในเรื่องก็แยกจากคู่ครองของตน และไม่เลือกผู้ชายคนใดเลย
ส่วนอนาคต ก็ปล่อยให้เป็นตอนจบปลายเปิด ให้เหล่าผู้อ่านได้ขบคิดกันต่อไป
เฟมินิสต์ติสต์จ๋าสุดๆ อ่ะ
Comments are closed.