อ่านแล้วเล่า

วัยเยาว์อันสิ้นสูญ

เรื่อง วัยเยาว์อันสิ้นสูญ
ผู้แต่ง วิลเลียม โกลดิ้ง
ผู้แปล ต้องตา สุธรรมรังษี
สำนักพิมพ์ ไลต์เฮ้าส์
เลขมาตรฐานหนังสือ 9786169007616

ควรอ่านคำนำของหนังสือเล่มนี้อย่างที่สุด
คำนำบอกเราในสิ่งเท่าที่เราควรรู้ก่อนอ่าน
รวมไปถึงความรู้สึก อุปสรรค และสิ่งที่เราน่าจะได้เมื่ออ่านมัน

เรารู้จัก วัยเยาว์อันสิ้นสูญ จากบทความที่บอกว่า
มันเป็นหนังสือที่ควรอ่านให้จบก่อนเรียนจบ หรืออะไรประมาณนั้น
แต่เราไม่เห็นด้วยอย่างมาก!!
มันไม่ใช่วรรณกรรมเยาวชนแน่ๆ
ส่วนวัยนักศึกษานั้น ก็ควรต้องขึ้นกับวิจารณญาณของแต่ละคน
หนังสือบางเล่ม ไม่ต้องรีบอ่านก็ได้
โตแล้วค่อยอ่านก็ไม่เสียหายอะไร
บางทีการรีบอ่านก่อนวัยอันควรอาจสร้างความเสียหายได้มากกว่า

เหตุผลก็คือ หนังสือเล่มนี้มันดาร์กมาก
มันตีแผ่ด้านมืดในจิตใจของคน
เราเดาเอาเองว่าผู้เขียนน่าจะต้องการจำลองระบบการปกครองของมนุษย์ในระยะเริ่มแรก
ยุคเริ่มก่อร่างสร้างชุมชนยุคหินอะไรเทือกนั้น
มีเหตุการณ์หลายอย่างในเรื่องที่ดูเหมือนเป็นสัญลักษณ์
หรือผู้เขียนต้องการจะสื่ออะไรบางอย่าง
แต่มันก็มีหลายอย่างที่ทำให้เราไม่เชื่อ
เราไม่เชื่อว่าพฤติกรรมมนุษย์ในสถานการณ์นั้นๆ จะเป็นอย่างที่ผู้เขียนเขียน
มันดูจงใจและยัดเยียดเกินไป

เรื่องในเล่มก็คือ กลุ่มเด็กกลุ่มหนึ่ง (เท่าที่เห็นมีแต่เด็กชายนะ)
เครื่องบินตกอย่างไม่มีที่มาที่ไป .. เด็กๆ เคยรู้จักกันบ้าง ไม่รู้จักกันบ้าง
ช่วงอายุมีตั้งแต่หกขวบไปจนถึงสิบต้นๆ คือบนเกาะมีแต่เด็กๆ
จำนวนเท่าไรไม่รู้ เพราะไม่เคยรวบรวมนับได้ตลอดรอดฝั่งสักที
เด็กที่เป็นตัวหลัก เป็นเด็กๆ วัยสิบกว่าๆ นี่เอง ..
ที่ได้แบ่งก๊กแบ่งกลุ่ม และเริ่มวางกฎระเบียบปกครองกันเอง
และสถานการณ์ก็ค่อยๆ ดำเนินไปอย่างตามมีตามเกิด ..

สำหรับเรา เราว่าสถานการณ์ในเรื่องไม่ได้มีส่วนบังคับให้เด็กๆ เป็นไปเช่นนั้น ขนาดนั้น
มันทำหน้าที่เพียงกระตุ้นให้เด็กบางคนเปิดเผยด้านมืดในจิตใจ
พวกเขาไม่ได้จำเป็นต้องทำเพื่อการอยู่รอด
แต่ชีวิตใหม่ที่ไร้กรอบและกฏเกณฑ์แบบผู้ใหญ่ต่างหาก
ที่ทำให้เขาเป็นตัวเองเสียก่อนที่จะได้เรียนรู้จักความดีชั่ว ความยับยั้งชั่งใจ

เราว่าการบรรยายมันไม่ต่อเนื่อง มันห้วนๆ เล่าเรื่องไว้ไม่จบก็เปลี่ยนไปอีกเรื่อง
ไม่แน่ใจว่าเป็นที่ต้นฉบับหรือวิธีแปล หรือบางทีอาจเป็นที่เราไม่มีสมาธิเอง?
มีหลายตอนที่อ่านแล้วหงุดหงิดกับการกระทำของเด็กๆ
ว่าทำไมทำอย่างนั้น ไม่ทำอย่างนี้ มันขัดอกขัดใจไปหมด
นี่ก็เป็นอีกอย่างที่ทำให้เราอ่านหนังสือเล่มนี้ได้ไม่ตลอดรอดฝั่ง
ต้องคอยอ่านๆ หยุดๆ
แต่ถึงอย่างนั้น .. โดยรวมๆ มันพล็อตก็เป็นที่น่าสนใจนะ
เป็นพล็อตที่เอาไม้หน้าสามฟาดกลางแสกหน้าคนอ่าน ปลุกให้เราฉุกคิดอะไรบางอย่าง
ซึ่งถ้าเล่าเรื่องได้ราบรื่นกว่านี้ มันคงจะทำให้เราคิดอะไรต่อยอดไปได้อีกเยอะ
ตอนนี้มันติดๆ ขัดๆ ไม่ไหลลื่น .. คาดว่าว่างๆ น่าจะหยิบมาอ่านอีกรอบ
แม้ว่ามันจะเป็นหนังสือที่ไม่ค่อยจะน่าอ่านซ้ำเอาซะเลย ..
ก็อารมณ์หลังอ่านจบ มันเป็นอารมณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นบ่อยๆ นี่นา!!

Comments are closed.