อ่านแล้วเล่า

ผู้ใหญ่ลีกับนางมา

101-1 ผู้ใหญ่ลีกับนางมา

เรื่อง ผู้ใหญ่ลีกับนางมา
ผู้แต่ง กาญจนา นาคนันท์
สำนักพิมพ์ แพร่พิทยา
ราคา 90 บาท (2 เล่มจบ)

ผู้ใหญ่ลีเมื่อปี พ.ศ. 2508 – 2509 ไม่ใช่ปี พ.ศ. 2504
ตอนที่ผู้ใหญ่ลีกับนางมาเรื่องนี้ถือกำเนิดขึ้นบนนิตยสารที่มีชื่อว่า ‘สตรีสาร’ นั้น
เรื่องราวเกิดขึ้นแถวๆ ธัญบุรี ปทุมธานีนี้เอง
ตอนนั้น เพลงผู้ใหญ่ลีโด่งดังขึ้นมากแล้ว
แม้ไม่รู้ว่ามันมีผลต่อชีวิตของผู้ใหญ่ลีในเรื่องหรือเปล่า
แต่มันมีผลต่อนางสาวมา ให้ถูกเพื่อนๆ ล้อเป็นนางมาไม่รู้เบื่อ
ยิ่งวันดีคืนดี มีจดหมายถึงผู้ใหญ่ลีส่งถึงนาง (สาว) มาด้วยเล่า …

มาลินีได้รับจดหมายคุณยายส่งผ่านผู้ใหญ่ลีถึงข่าวมรณกรรมของท่าน
พร้อมพินัยกรรมยกมรดกที่นาแถบธัญบุรีให้กับเธอกว่า 300 ไร่
โดยมีข้อแม้ว่าเธอจะต้องดูแลที่นาเอง ห้ามให้เช่าหรือขายให้คนอื่น
ยกเว้นแต่ผู้ใหญ่ลีคนเดียวเท่านั้น
ความสัมพันธ์ระหว่างคุณยายกับพ่อแม่มาลินีนั้นไม่ค่อยจะราบรื่นเท่าไรนัก
และมันส่งผลมาถึงตัวเธอด้วย แม้จะรักและเคารพท่าน แต่เธอไม่สนิทกับคุณย่าเลยแม้แต่น้อย
เธอจึงไม่เข้าใจเจตนารมณ์ของท่านเลย และพาลเคืองไปถึงผู้ใหญ่ลีด้วย
มาลินีผู้หัวเดียวกระเทียมลีบ จัดกระเป๋าเดินทางเพียง 3 วัน ออกเดินทางไปยังธัญบุรี

นางสาวมามีความรักและคนรักที่ไม่ค่อยราบรื่นอยู่คนหนึ่ง
เป็นข้าราชการเช่นเดียวกับเธอ ชื่อประดิษฐ์
ในตอนที่ความรักกำลังระหองระแหงนี่เอง ที่มาลินีออกเดินทาง

นางสาวมา .. มาลินีเป็นข้าราชการที่รับงานเดินแบบให้ห้องเสื้อต่างๆ เป็นอาชีพเสริม
เธอรักความสวยงาม หรูหรา และสะดวกสบาย
ย้อนหลังไปราวๆ 50 ปี
แค่ปทุมธานีก็ทุรกันดานพอแล้วที่นางสาวมาจะใช้ชีวิตอยู่อย่างลำบากแล้ว

ทันทีที่มาลินีมาถึงบ้านคุณยายวัน ผู้ใหญ่ลีก็ส่งนายปื๊ด
เจ้าลูกชายผู้แสนฉลาดและน่ารักน่าเอ็นดูไปรับรองดูแลเธอดิบดี
แม้จะเอ็นดูลูกชาย แต่จากคำพูดซื่อๆ ของเด็กชาย
ก็ทำให้มาลินีเข้าใจผู้ใหญ่ลีผิดไปไกลโข เธอนึกไม่ชอบหน้าผู้ใหญ่ตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า

นายปื๊ดคนนี้ พามาลินีเดินดูบ้าน สอนให้มาลินีหุงข้าวทำกับข้าว
และพาเดินชมบ้านคุณยายอย่างน่าเพลิดเพลิน
ทั้งๆ ที่มาลินีชอบลูกชายผู้ใหญ่ลีขนาดนี้
แต่มันกลับไม่ทำให้เธอชอบหน้าพ่อนายปื๊ดเพิ่มขึ้นมาเลย

แต่ถึงเธอจะไม่ชอบเขา แต่เธอก็พึ่งพาเขาผ่านตัวกลางเด็กชายปื๊ดอยู่หลายอย่าง
นอกจากเด็กชายปื๊ด ยังมีเพื่อนบ้านผู้ที่รักและเคารพคุณนายวันอีกหลายคน
ที่คอยช่วยเหลือมาลินีให้มีชีวิตอยู่ในบ้านคุณยายได้อย่างไม่ลำบากนัก
มาลินีที่ทีแรกตัดสินใจจะมาเพียงสองสามวัน แล้วกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ ตามเดิมนั้น
ก็เกิดปัญหาขึ้น ความรักที่กำลังระหองระแหงนั้น ทำท่าว่าจะจบสิ้นลงจริงๆ

นอกจากนี้ เพียงสามวันที่มาลินีอยู่ที่บ้านคุณยาย
เธอมองเห็นความงามของธรรมชาติที่ไม่เคยมองมาก่อนเมื่อตอนอยู่กรุงเทพฯ
เธอมองเห็นความงามของทุ่งข้าง แสงสวยๆ ยามดวงตะวันขึ้นและตกดิน ฯลฯ

และข้อสุดท้าย .. เพราะทิฐิเสียจนไม่ยอมขายที่ให้ผู้ใหญ่ลีนี้เอง
ทำให้มาลินีตัดสินใจมาดูแลไร่นาและปศุสัตว์ที่ธัญบุรีตามคำสั่งเสียครั้งสุดท้ายของคุณยาย

นาง (สาว) มาผู้ทำอะไรไม่เป็นเลย
พอมาอยู่บ้านคุณยายก็ได้ผู้ใหญ่ลีและเพื่อนบ้านช่วยเหลือเป็นอันดี
ด้วยบารมีและความเมตตาของคุณยายผู้ล่วงลับ
ทำให้ใครต่อใครพากันรักหลานสาวของคุณยายไปด้วย

เมื่อมาลินีมาอยู่ที่บ้านคุณยายได้ไม่นานเท่าไร
เธอก็เผลอเข้าใจไปว่าผู้ใหญ่ลีคือนายเหว่า คนงานผู้ขันแข็งของผู้ใหญ่ลี
และเขาก็ปล่อยเลยตามเลยให้เธอเข้าใจผิดอยู่อย่างนั้น
เธอให้ความสนิทสนมกับนายเหว่าตัวปลอมด้วยดี แถมยังนินทาผู้ใหญ่ลีให้เจ้าตัวฟังเสียด้วย
เป็นพล็อตที่กุ๊กกิ๊กน่ารัก และคลาสสิคมากเลยค่ะ ^^

101-2 ผู้ใหญ่ลีกับนางมา

ผู้ใหญ่ลีกับนางมา เล่าด้วยภาษาง่ายๆ ซื่อๆ ตรงๆ เหมือนกับฉากและตัวละครส่วนใหญ่
มีฉากหวานๆ ให้อ่านเป็นระยะๆ
ผู้ใหญ่ลีผู้เจ้าเล่ห์แสนกล เวลาจีบกับนาง (สาว) มา ดูน่ารักดี
มีอารมณ์หวานๆ จิกหมอนๆ นิดๆ แบบชาวบ้านๆ ชาวนาๆ
เวลาที่ผู้ใหญ่ลีหวานกับมาลินีนี่ก็น่ารัก อ่านไปอมยิ้มไป
แต่เวลาที่ผู้ใหญ่ลีเกเรนี่ก็น่าหมั่นไส้ หาเหตุกทะเลาะไม่เป็นเรื่อง
อ่านไปรำคาญไปเหมือนกัน

อ่านไปอ่านมา ผู้ใหญ่ลีกับนางมาก็ทำท่าว่าจะสนุกอยู่แค่ครึ่งเล่มแรกเท่านั้น
พอครึ่งเล่มหลัง ผู้ใหญ่ลีก็มีช่วงที่ทำตัวได้น่ารำคาญพอกับประดิษฐ์ คู่รักเก่าของมาลินี
พระเอกของเราช่างทำตัวยียวนกวนประสาท
หึงใครต่อใครก็มาลงที่นางสาวมาหมด
พระเอกนางเอกยุคก่อนเขาก็งอนกันประหลาดๆ แล้วก็ง้อกันประหลาดๆ
แบบที่คนยุคใหม่คงไม่ทันง้อ คงเลิกกันไปเลย
ถ้าเราเป็นนางมา เราคงวีนผู้ใหญ่ลีน่าดูเหมือนกัน โทษฐานที่หึงตะพึดตะพือ
ช่วงก่อนผู้ใหญ่ฯ จะบวชนี่น่าโมโหมาก เอาแต่ใจตัวเองจนเหมือนเด็ก
คนจะบวช มิวายจะเป็นถึงพ่อนาคแล้ว ยังแกล้งมาลินีต่างๆ นานา
แทนที่จะขออโหสิ ทำใจให้สงบ
ดูไปดูมา เหมือนคนสองคนนี้จะรักกันแปลกๆ
รักกันแต่ไม่ได้เชื่อมั่น วางใจกันและกันเสียเลย

อ่านนิยายสองยุคสลับกันไปมา
ทำให้พอจะเปรียบเทียนเห็นความแตกต่างของค่านิยมที่เปลี่ยนไปหลายอย่าง
อยู่อย่างคนยุคนี้นานๆ เลยพาลจะอ่านนิยายยุคเก่าไม่สนุกไปซะอย่างนั้น

โดยรวมๆ การอ่านผู้ใหญ่ลีกับนางมาเมื่อหลายสิบปีก่อน
ให้ความรู้สึกสนุกและฟินมากกว่ามาอ่านในยุคนี้เยอะเลย
และเวอร์ชั่นละคร ผู้ใหญ่ลี ปอ กับนางมา พลอย ดูสนุกร่วมสมัยกว่าอ่านหนังสือค่ะ
แต่ถ้าอยากได้บรรยากาศเก่าๆ วิถีชีวิตชาวนาไทยแท้ในยุคนั้น
หนังสือให้เต็มอรรถรสกว่าเห็นๆ

นอกจากนี้ ผู้ใหญ่ลีกับนางมา ยังได้ซ่อนเร้นความรู้
เกี่ยวกับวัฏจักรของการทำนาเอาไว้อย่างแยบยล
วิถีชีวิตของชาวนาที่นาง (สาว) มาได้มาฝึกหัดเรียนรู้ ก็ได้อานิสงส์เผื่อแผ่ไปถึงคนอ่านด้วย
ยุคของผู้ใหญ่ลีเป็นยุคที่ชาวนาหันมาใช้รถไถนาติดเครื่องใหม่ๆ
แม้แต่คุณนายวัน คุณยายของมาลินียังขายควายทั้งโรงใหญ่ๆ มาใช้รถไถของผู้ใหญ่ลี
ผู้ใหญ่ลีผู้จบปริญญาจากเกษตรศาสตร์ ก็ยังเห็นดีเห็นงาม
แถมยังสนใจผลิตภัณฑ์รถนวดข้าวที่จะมีใช้ในอนาคตด้วย
แม้คนเก่าคนแก่จะกลัวน้ำมันจากรถพวกนี้ทำให้นาเสียหาย
แต่ชาวนาทุกคนก็ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนเพื่อเข้าสู่ยุคสมัยใหม่กันมากขึ้นเรื่อยๆ
ผ่านมาอีกราวๆ 50 ปี รถไถกลับกลายเป็นของแย่ไปแล้ว
ควายถูกนำมาเปรียบเทียบและคิดคำนึงถึงด้วยความเสียดาย
ชาวนาไทยในปัจจุบันขาดทุนล่มจมเพราะรถไถและปุ๋ยเคมี
คนยุคนี้กลับมารณรงค์ให้ทำเกษตรอินทรีย์กลับไปเหมือนยุคก่อนผู้ใหญ่ลีอีกครั้ง
นึกไม่ออกว่า ถ้าผ่านไปอีก 50 ปี คนไทยจะยังทำนากันอยู่ไหม และทำแบบไหนกัน
การตัดสินความผิดถูก ดูกันสั้นๆ ไม่ได้ทีเดียวเชียว

Comments are closed.