อ่านแล้วเล่า

ปริซึม สีของความรู้สึก

เรื่อง ปริซึม สีของความรู้สึก
ผู้แต่ง ซนว็อนพย็อง
ผู้แปล วิทิยา จันทร์พันธ์
สำนักพิมพ์ piccolo
(สำนักพิมพ์ในเครืออมรินทร์)
เลขมาตรฐานหนังสือ 9786161848903

ปริซึม สีของความรู้สึก
เริ่มต้นเล่าเรื่องผ่านตัวละคร 2 คน
คือเยจิน กับโดวอน
เยจิน เป็นสาวออฟฟิศ ทำงานอยู่ในบริษัทของเล่น
ที่มีสำนักงานอยู่บนอาคารแห่งหนึ่งกลางกรุงเกาหลี
ในขณะที่โดวอน มีอาชีพเป็นซาวด์เอ็นจิเนีย มีหน้าที่แก้ไขเสียงภาพยนตร์
ทั้งสองคนเจอกันโดยบังเอิญ ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับบริษัท
มันเป็นร้านการแฟลับๆ ในซอกหลืบ
ถึงแม้ย่านนั้นจะพลุกพล่น แต่ร้านกาแฟแห่งนั้นกลับเงียบสงบ
ทั้งสองคนก็เลยเจอกันบ่อยๆ แล้วก็เริ่มรู้สึกดีต่อกัน

ก่อนหน้านั้น หนังสือปูพื้นถึงความทรงจำที่ฝังใจเยจินมาตั้งแต่เด็ก
ที่บ้านของเธอในชนบท เคยเลี้ยงวัวมาก่อน
มีลูกวัวตัวหนึ่งที่เธอรักมาก ถูกขายไป
พ่อนำเงินจากการขายลูกวัวตัวนั้นไปซื้อเครื่องเขียนสวยๆ ให้เธอ
หนึ่งในเครื่องเขียนเหล่านั้น มีอันหนึ่งเป็นปริซึมทรงสามเหลี่ยมพีระมิด
แม้จะเสียใจที่วัวถูกขายไป
แต่ข้าวของเหล่านั้น โดยเฉพาะปริซึม
ก็เป็นเสมือนตัวแทนของลูกวัวตัวนั้น
เธอหลงใหลแสงที่ถูกส่องผ่านปริซึม และกระจายออกเป็นสีรุ้ง
เธอมีความทรงจำทั้งดีและร้าย เกี่ยวกับเจ้าปริซึมนั้น
และความทรงจำเหล่านั้นทำให้เกิดความรู้สึกฝังใจว่า
ของที่รักนั้น ถ้ารักมาก สุดท้ายแล้วจะทำให้เจ็บ
เธอจึงเลยไม่ให้ความรู้สึกรักเต็มร้อยกับอะไรอีก

รวมทั้งการที่เธอได้พบกับโดวอนในครั้งนี้ด้วย
ซึ่งโดวอนก็รู้สึกเหมือนกัน
เขารู้สึกชอบความสัมพันธ์แบบมีระยะห่างแบบนี้
แค่บังเอิญพบกันตอนกลางวัน
ได้นั่งจิบกาแฟข้างๆ กัน รู้สึกดีๆ ต่อกัน
แต่ไม่สานต่อมันไปมากกว่านั้น

แล้วในตอนที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยังไปไม่ถึงไหน
ผู้เขียนก็เปิดตัวตัวละครอีกคู่หนึ่ง
คือ แจอิน เจ้าของร้านขนมปังวัย 34
กับ โฮ-กเย เด็กหนุ่มในร้าน วัย 25

ผู้เขียนค่อยๆ ดึงเส้นด้ายที่ร้อยต่อกันของตัวละครทั้งสี่
เขยิบเข้ามาหากันอย่างช้าๆ
เราว่าเขาเล่าเรื่องได้สนุกดี
มีเหยื่อล่อให้น่าติดตามว่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของคนทั้งหมดจะดำเนินไปอย่างไร

ก่อนหยิบเล่มนี้มาอ่าน เราเกร็งรอเอาไว้แล้วเลย
ว่าเล่มนี้น่าจะคล้ายๆ กับวรรณกรรมเกาหลีญี่ปุ่น
ที่อ่านบ่อยๆ ในช่วงหลังมานี้
แต่ .. เล่มนี้มีวิธีเล่าที่แตกต่างออกไป
มันมีความเป็นนิยาย มีเส้นเรื่อง
และค่อยๆ นำพาแต่ละตัวเดินสะเปะสะปะ
ไปบนทางชีวิตของพวเขา
ต่างคนต่างมีเส้นทางของตัวเอง
และเราเฝ้ารอว่าเส้นทางของแต่ละคน
จะไปบรรจบกันตอนไหน อย่างไร
มันเป็นเรื่องของความสัมพันธ์
เป็นเรื่องของคนที่มีอดีต มีความรัก และมีแผล
เราชอบบทบรรยายในหลายๆ ตอน
ที่ผู้เขียนบรรยายความรู้สึกของตัวละคร
ตรงนี้ ทั้งผู้เขียนและผู้แปลทำเอาไว้ดีมาก
มันทำให้พล็อตเรื่องที่ไม่ได้หวือหวา น่าติดตามมาก

เราไม่ได้อ่านหนังสือแล้วหลงรักตัวละครมานานแล้ว
เราชอบโดวอน .. ชอบความรู้สึกตอนที่เขาชอบอยู่คนเดียว
เราเข้าใจความรู้สึกของคนที่คิดว่าตัวเองจะโดดเดี่ยว
หากพอมันเกิดขึ้นจริง กลับมีความสุขที่ตัวเองโดดเดี่ยว

ในขณะที่เยจินเอง เราก็ชอบความคิดของเธอ
ซึ่งจริงๆ ก็คือความคิดของผู้เขียนที่ถูกถ่ายทอดออกมา
เธอบอกว่า ตอนที่แอบชอบ คือตอนที่ดีที่สุดแล้ว
เพราะเมื่อคนสองคนตกลงคบกัน
และค่อยๆ สร้างโลกส่วนรวมขึ้นมา
โดยต่างฝ่ายต่างพยายามเปลี่ยนตัวเอง
โลกแห่งความฝันอันหวานหอม จะกลายเป็นโลกของความจริง

ดังนั้น เราจึงชอบความสัมพันธ์ครึ่งๆ กลางๆ ที่ไม่ก้าวไปข้างหน้าของคนคู่นี้
มันเป็นการเล่าเรื่องที่นำพาไปให้เรารู้สึกแบบนี้
เชียร์คู่นี้ แต่ไม่เชียร์ให้พวกเขาไปไกลกันเกินกว่านี้ ^^”
ซึ่ง .. ทั้งหมดนี้มันก็เป็นเพียงแค่ช่วงต้นของเรื่อง
แม้ว่าช่วงหลัง ตัวตนทั้งหมดนี้ของตัวละคนจะแตกต่างออกไป
เปลี่ยนแปลงไปจากจุดเริ่มต้น .. แต่เราก็ว่าเขาดำเนินเรื่องไปสนุกอยู่ดี

เล่มนี้ มีฉากโรแมนติกอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะพบในหนังสือเล่มบางๆ แบบนี้
เป็นโรแมนติกที่ใจละลายจัง
ไม่ได้อ่านงานโรแมนติกมานานมากแล้ว
เป็นความรู้สึกที่เคยเกิดขึ้นบ่อยๆ ตอนที่เด็กกว่านี้
จู่ๆ ก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าเราไม่ได้อ่านงานแบบนี้มานานมากแค่ไหนแล้ว

กับตอนจบของเล่ม มันเป็นโลกความจริงดี
ที่บางความสัมพันธ์ ก็จบลงแบบค้างคาใจ
แต่บางทีน่ะนะ .. การอ่านนิยาย เราก็อยากได้ตอนจบแบบนิยายไง >,<

Comments are closed.