อ่านแล้วเล่า

จอมนาง

92-1 จอมนาง

เรื่อง จอมนาง
ผู้แต่ง แก้วเก้า
สำนักพิมพ์ ทรีบีส์
(สนพ. ในเครือ สนพ.อักษรโสภณ)
ราคา 300 บาท

อ่าน จอมนาง เป็นรอบแรกของเราค่ะ
เปิดเรื่องมาน่าสนใจ น่าติดตามมาก (คิดโยงไปถึง เกนรีมายรี นิดๆ แต่สนุกกว่ามากกกก)
เรื่องราวของเจ้าพลัดถิ่นที่ลี้ภัยการเมืองมาเก็บตัวอยู่อย่างเงียบเชียบในประเทศไทย
สัญลักษณ์ของนามปากกาแก้วเก้า มาตกอยู่ที่สโรบล นางเอกของเรื่องค่ะ
สโรบล หญิงสาวผู้เป็นรัชทายาทของหงสาผู้นี้มีพลังลึกลับที่ไม่สามารถบอกใครได้
พลังที่ว่านี้คือความสามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของด้วยพลังจิต

เราเข้าใจ (เอาเอง) ว่า ..
ผู้เขียนน่าจะมีแรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวของ พระนางสุจันทรี บ้างไม่มากก็น้อย
แต่มาเสริมเติมแต่งด้วยจินตนาการสุดลึกล้ำ
ทำให้รายละเอียดไม่มีอะไรเหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นจริงเลย
แต่เค้าโครงหลักของเรื่อง ชวนให้คิดเช่นนั้นจริงๆ ค่ะ

ประเทศหงสา เป็นประเทศสมมติ มีลักษณะเป็นเกาะขนาดเล็ก
ตั้งอยู่ในกลุ่มประเทศเอเชียอาคเนย์ มีการปกครองด้วยระบอบกษัตริย์
และสืบทอดตำแหน่งกันตามสันตติวงศ์
ขานนามผู้ครองแผ่นดินว่าเจ้าฟ้า และเรียกพระประยูรญาติทั้งหมดว่าเจ้าชาย เจ้าหญิง
ตัวละครในเรื่องนี้จึงเต็มไปด้วยเหล่าเจ้าชายเจ้าหญิงกันทั้งเรื่อง

สโรบลเดินทางกลับคืนสู่บ้านเกิดในวันเจ้าราชบุตรแห่งหงสาสิ้นพระชนม์ครบปี
เธอแฝงตัวมาในนามของหญิงไทยที่ผ่านการสอบคัดเลือกให้เข้ามาทำงานที่หงสา
ด้วยความช่วยเหลือของ ดร.วินธัย .. เธอรับหน้าที่เป็นราชเลขาของเจ้าหญิงโสคนธิกา
พระธิดาของผู้สำเร็จราชการ .. เจ้าชายทินมณิก

ประเทศหงสา เป็นประเทศที่เคยตกเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษในช่วงก่อนสงครามโลก
และเพิ่งได้รับเอกราชโดยการกอบกู้ของเจ้าฟ้าหงสาองค์ปัจจุบัน
ร่วมกับเหล่าทหารคู่ใจ อาสนะ ชิตณรงค์ และโตมร
ในเวลานั้น เจ้าชายทินมณิกกำลังศึกษาอยู่ที่ต่างประเทศ
และได้แต่งงานกับเจ้าหญิงแคเทอรีน หญิงสาวสามัญชนชาวอังกฤษ
มีพระธิดาคือ เจ้าหญิงโสคนธิกา
แต่เดิม เจ้าชายทินมณิกและพระธิดาจึงไม่เป็นที่โปรดปรานของเจ้าฟ้าหงสานัก
จวบจนเมื่อเจ้าราชบุตรสิ้นพระชนม์ลงกะทันหัน
และเจ้าฟ้าหงสาทรงเสียพระทัยกับการสูญเสียนั้น และมุ่งมั่นอยู่แต่กับไสยศาสตร์
โดยมีพรหมฤาษีปูรพะเป็นตัวการสำคัญ หลอกพระองค์ว่าจะทำให้เจ้าราชบุตรคืนชีพได้
ด้วยเหตุนี้ จึงมีข่าวลือกันอย่างลับๆ ว่าเจ้าฟ้าทรงเสียพระจริตไปแล้ว
เจ้าชายทินมณิกจึงได้รับการคัดเลือกจากเหล่าพระประยูรญาติให้เป็นผู้สำเร็จราชการแทน
เมื่อเจ้าฟ้าผู้ครองประเทศอ่อนแอลง ทั้งฝ่ายทหารซึ่งคานอำนาจกันอยู่ระหว่าง ..
นายพลอาสนะ และนายพลชิตณรงค์ จึงเตรียมการกันอยู่ลับๆ
เหล่าเจ้าชายเจ้าหญิงอีกหลายฝ่าย ก็เริ่มเตรียมการลับๆ เช่นกัน

เจ้าชายภาณุมณฑล คือผู้หนึ่งที่ถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษจากรอบด้าน
เพราะโดยลำดับทางสันตติวงศ์แล้ว จะเป็นผู้มีโอกาสมากที่สุด
ในขณะที่ผู้สำเร็จราชการอย่างเจ้าชายทินมณิก ก็ตั้งใจจะผลักดันให้พระธิดา
ขึ้นเป็นเทวีหงสา หรือมิเช่นนั้นก็ให้อภิเษกกับเจ้าชายภาณุมณฑลเสียเลย
และสนับสนุนให้เจ้าชายขึ้นเป็นเจ้าฟ้าหงสาแทน
ทั้งนี้และทั้งนั้น เจ้าชายภาณุมณฑลไม่ได้เห็นด้วยเลยทุกประการ

เจ้าชายทินมณิกยังมีพระอนุชาอีกพระองค์หนึ่ง นามว่าเจ้าชายอัษฎางค์
แต่เดิมเคยเป็นเจ้าชายที่ทรงฉลาดเฉลียว แหลมคม ปราดเปรื่อง
แต่ปัจจุบัน พระองค์ถูกขานนามว่าเป็นแกะดำแห่งราชวงศ์หงสา
เพราะทรงทำองค์เกะกะระราน เที่ยวเตร่ เมามายทุกคืน ไม่ได้เรื่องได้ราว
ไ่ม่มีพิษมีภัยกับใคร แต่ถึงอย่างนั้นก็ทรงเป็นไม้เบื่อไม่เมากับเจ้าชายเจ้าหญิงเกือบทุกพระองค์
โดยเฉพาะกับเจ้าชายทินมณิก พระเชษฐาเอง

สปอยล์!!
อ่านไปอ่านมา ชักชอบตัวละครที่เป็นแกะดำอย่างเจ้าชายอัษฎางค์ค่ะ
ทรงฉลาดที่แกล้งทำตัวเสเพลติดต่อกันหลายปี โดยไม่มีผู้ใดผิดสังเกต
เพราะทรงเมาจริง เกะเกะระรานจริงเสียด้วยสิ ^^

วันหนึ่งสโรบลเดินทางไปพักร้อนกับมิสซินแคลร์เพื่อนร่วมงาน ที่เมืองริมทะเลแห่งหนึ่ง
เธอทำทีขี่ม้าท่องเที่ยวเข้าไปจนใกล้ปราสาทพนาศัย
สถานที่อันเป็นที่สุดท้ายที่คุมขังเจ้าชายชวาลา ‘พ่อ’ ของเธอ

เจ้าชายชวาลา เป็นพระอนุชาเพียงองค์เดียวของเจ้าฟ้าหงสา
และกบฏชวาลา เป็นกบฏที่เกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว นานเกือบเท่าอายุของสโรบล
เป็นการกบฏที่ยังไม่ได้เริ่มทำการ แต่ผู้นำและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดถูกจับมาเสียก่อน
หลังเหตุการณ์ครั้งนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องเกือบทั้งหมดได้รับการปลดปล่อย
ยกเว้นเพียงแต่เจ้าชายชวาลาเท่านั้น .. เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องลับที่ห้ามทุกคนพูดถึง
ในครั้งนั้น .. พระนามของเจ้าชายชวาลา เจ้าหญิงอุณาโลม พระชายา
รวมไปถึงเจ้าหญิงเวสาตรี พระธิดาวัยหนึ่งขวบ
ได้ถูกลบออกจากประวัติศาสตร์เมืองหงสาไปโดยปริยาย
ปัจจุบัน ปราสาทพนาศัยได้กลายเป็นค่ายทหารของนายพลอาสนะ
และปิดเงียบสำหรับบุคคลทั่วไป

ในหุบเหวบริเวณนั้นเอง สโรบลได้พบกับเจ้าชายภาณุมณฑลเป็นครั้งแรก
และใครเลยจะคิดว่าหลังจากนั้นอีกราวหนึ่งสัปดาห์
เธอและเจ้าชายภาณุมณฑลจะได้เข้าไปในปราสาทแห่งนั้น .. สมความปรารถนาของเธอ
คืนนั้น ขณะที่นายพลอาสนะ เจ้าชายภาณุมณฑล และนักวิชาการชาวรัสเซีย
กำลังร่วมโต๊ะอาหารค่ำ ในคืนที่ฝนตกหนัก และไฟดับ เหตุการณ์แปลกประหลาดก็เกิดขึ้น
เป็นเหตุการณ์เร้นลับหลายอย่างที่เกิดขึ้นจากพลังจิตของสโรบล
และร่างของเจ้าชายชวาลาที่ปรากฏขึ้น ทำให้สโรบลค้นพบพิรุธบางอย่างจากนายทหารผู้นี้
สโรบลใช้โอกาสเดียวของเธอ .. โอกาสที่ได้เข้ามาถึงภายในปราสาทพนาศัยอย่างคุ้มค่า
เธอลักลอบออกจากปราสาทกลางดึก .. แต่ไม่สำเร็จ
เธอได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าชายภาณุมณฑลก่อนจะถูกจับได้

ดำเนินเรื่องมาได้ไม่ถึงครึ่งเล่ม ที่มาที่ไปของสโรบลก็ถูกถ่ายทอด-
ให้เราผู้อ่านเห็นภาพชัดเจนแจ่มแจ้งไปถึงตอนจบแล้ว
หากแต่ว่า ความสนุกและน่าติดตามต่อจนวางไม่ลงคือ เธอจะเป็นเทวีหงสาได้ด้วยวิธีใดต่างหาก
เพราะอุปสรรคขัดขวางข้างหน้ายังอีกมากมาย

จอมนาง เป็นนิยายที่สนุกมากค่ะ
ไม่ได้อ่านนิยายที่สนุกจนวางไม่ลงขนาดนี้มานานมากแล้ว

พระเอกเรื่องนี้ เป็นส่วนผสมระหว่างนักปราชญ์และศิลปิน
ฉลาด สงบนิ่ง และรู้จักวางตัว
ตัวละครในเรื่อง ฉลาดเกือบทุกตัว ทั้งพระเอก นางเอก ตัวร้าย นางร้าย
ไปจนถึงตัวละครที่ดูไม่ได้เรื่องได้ราวใดๆ ทุกตัวชิงไหวชิงพริบและหยั่งเชิงกันอยู่ในที
ทั้งสนุก ทั้งเกร็ง ทั้งลุ้นจนลืมหายใจ
มีฉากหวานๆ แทรกอยู่บ้างค่ะ เป็นความหวานลึกล้ำปนเศร้า
ด้วยไม่อาจเผยอารมณ์และอาการใดๆ ต่อกันและกัน
ทุกคนมีความลับ อ่านแล้วอึดอัดมาก แต่ก็สนุกมากจริงๆ ค่ะ

มาเสียดายอยู่หน่อยเดียวในตอนที่เจ้าชายภาณุมณฑลได้รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของสโรบลนั้น
ค่อนข้างจะราบเรียบไปหน่อย แต่ก็สมกับที่ทั้งพระเอกนางเอกต่างก็สุขุมคัมภีรภาพนั่นแหละ
เลยไม่มีฉากอย่างที่คิดหวังจะได้อ่านเท่าไร

และเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของนิยายแก้วเก้าค่ะ ที่มีปมซับซ้อนกันเยอะมาก
ตอนจบเลยยืดเยื้อนิดหน่อย ที่ต้องคลี่คลายทุกปมให้กระจ่าง
ไคลแมกซ์แล้วไคลแมกซ์อีกจนหายตื่นเต้น
ได้บทสรุปแต่เพียงว่า ..

“อำนาจจะมาพร้อมหน้าที่เสมอ และหากเราคาดหวังจะนั่งบนตำแหน่งสุดสุด
พึงระลึกไว้เถิด ว่าหน้าที่และความรับผิดชอบแห่งตำแหน่งนั้นย่อมสูงสุดด้วยเช่นกัน”

92-2 จอมนาง

แต่โดยรวมแล้ว จอมนาง เป็นนิยายของแก้วเก้าที่สนุกที่สุดตั้งแต่อ่านมาในปีนี้เลยค่ะ
ชอบ!

Comments are closed.