เกนรี มายรี

เรื่อง เกนรี มายรี
ผู้แต่ง โสภาค สุวรรณ
สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรรณกรรม
ราคา 260 บาท (2 เล่มจบ)
จากคำนำทำให้เราทราบถึงแรงบันดาลใจของผู้เขียนค่ะ
ผู้เขียน เขียนเรื่องนี้ขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในเมืองสีป่อ แห่งรัฐฉาน
เพียงการตัดสินใจจากผู้นำคนเดียวของประเทศ ทำให้เกิดความสูญเสียหลายทางต่อเนื่องกันมาเป็นทอดๆ
จากส่วนเล็กๆ ไปจนถึงยอดสุดของระบอบการปกครองดั้งเดิม
ครอบครัวต้องพลัดพราก แตกแยก สูญหาย และสูญสลาย ..
แต่เนื่องจากโสภาค สุวรรณ ต้องการที่นำเรื่องราวเหล่านั้นมาเขียนในรูปแบบนิยาย
(เราจึงเข้าใจเอาเองว่า) ผู้เขียนจึงได้ดัดแปลงเนื้อหาให้ผิดไปจากความเป็นจริงหลายส่วน
เกนรี มายรี เปิดเรื่องด้วยฉากสุดท้ายในชีวิตของมหาเทวี
ในเวลานั้น นางได้ฝากบุตรสาวเล็กๆ 2 คนของนางไว้กับนายแพทย์ทินทิน
จิตแพทย์ผู้จงรักภักดี ผู้มีสายเลือดเดียวกันกับเจ้าผู้ครองรัฐ
(ซึ่งในความเป็นจริง มหาเทวีสุจันทรีสามารถลี้ภัยออกนอกประเทศได้โดยปลอดภัย
และมีชีวิตยืนยาวกว่านั้นมากนัก)
อีกหนึ่งสิ่งที่ผิดไปจากประวัติศาสตร์คือ ผู้เขียนตั้งให้เกนรี ฟ้าหญิงองค์น้อยเป็นพี่ และมายรีเป็นน้อง
ในขณะที่ความเป็นจริง (จากสิ้นแสงฉาน) บอกเอาไว้ว่ามายรีเป็นเจ้าพี่ และเกนรีเป็นเจ้าน้อง
(แถมยังทำให้ชะตาชีวิตของเจ้าน้องบิดผันไปจากความจริงด้วย แต่ขอไม่บอกนะคะ เดี๋ยวสปอยล์ ^^)
(แต่จริงๆ ข้างล่างนี้ก็ค่อนข้างสปอยล์เนื้อหาหลักนะคะ เตือนกันไว้ก่อน ^^”)
นอกจากนี้รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อื่นๆ ก็ได้ถูกแต่งเสริมขึ้นตามจินตนาการของผู้เขียนด้วย
เพื่อให้ได้อรรถรสของนิยายครบถ้วน สมบูรณ์
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ จึงเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในนิยายเรื่องเกนรี มายรี
ไม่ใช่พระประวัติแท้จริงของเจ้านางน้อยทั้งสองจากรัฐฉานแต่ประการใด
เกนรีและมายรี ธิดาเจ้าเหนือหัวแห่งรัฐใหญ่ทางตอนเหนือของไทย
สาวน้อยลูกครึ่งผู้มีเชื้อสายไทยใหญ่จากเจ้าหลวง และไทยจากเจ้านางหลวงหรือเจ้านางหอคำ
เป็นกำพร้าตั้งแต่เล็กๆ ด้วยว่าเจ้าหลวงผู้เป็นบิดาถูกจับกุมตัว
ฝ่ายเจ้านางหลวงผู้เป็นมารดา เสียชีวิตลงด้วยโรคร้ายระหว่างสงครามกลางเมือง
เด็กหญิงทั้งสองเติบโตขึ้นมาท่ามกลางข้าราชบริพารผู้ภักดีจำนวนหนึ่ง
ได้รับการศึกษาพอสมควรตามแต่จะสอนกันเองได้
กินอยู่อย่างจำกัดภายใต้การควบคุมของทหารเลวที่ถูกส่งมาจากรัฐบาลทหารของท่านผู้นำ
เจ้าพี่เจ้าน้องทั้งสองเติบโตและงดงามขึ้นทุกวัน
ลักษณะราศีแห่งสายเลือดจากผู้ที่เคยเป็นเจ้าชีวิตประชาชนทั่วแคว้นฉายแววออกมาเด่นชัด
โดยเฉพาะเกนรีเจ้าน้อยผู้พี่นั้นเธอมีลักษณะอันน่าเกรงขาม มีอำนาจลึกล้ำซ่อนอยู่ภายใน
ในเวลานั้นเอง เกนรีมีโอกาสได้พบกับเจ้าวรอินทร์ ซึ่งปลอมองค์เป็นคนงานส่งไม้ฟืนให้กับทหารพม่า
เจ้าวรอินทร์ บุตรชายเจ้าเมืองเสียง เมืองเอกรองจากรัฐสีป่อ (ซึ่งในเรื่องไม่ได้เอ่ยชื่อเมืองเอาไว้)
เป็นว่าที่เจ้าหลวงองค์ต่อไป ขณะที่เกนรีเองก็เป็นว่าที่เจ้านางหลวงเช่นกัน
เจ้าวรอินทร์มีแผนที่จะเดินเท้าหลบหนีเข้าเมืองไทย
ขณะที่เกนรีและมายรีเองก็กำลังดำเนินการที่จะขอลี้ภัยเข้าประเทศไทยด้วยเช่นกัน
เมื่อเจ้านางน้อยทั้งสองลี้ภัยการเมืองมายังประเทศไทยได้
พวกเธอได้อาศัยร่มเงาของคุณยายแท้ๆ ของเธอ ที่แม้จะไม่ร่ำรวย แต่ก็มีความคิดอ่านที่ดี
มีเมตตา มีกิริยามารยาทเพียบพร้อมที่จะถ่ายทอดสิ่งดีๆ ให้แก่เจ้านางทั้งสอง
สามชีวิตได้ต่อสู้อุปสรรคต่างๆ นานามาด้วยกัน จวบจนกระทั่ง …
เจ้านางน้อยที่บุญน้อยกว่า เติบโตมาได้จนอายุราว 10 ปี เคราะห์กรรมก็ก่อให้เกิดอุปัทวเหตุขึ้น
วันเวลาผ่านไปจวบจนกระทั่งเจ้านางเกนรีกลายเป็นนักศึกษาแพทย์ ปีที่ 3
คุณยายผู้เป็นเสาหลักเพียงคนเดียวของเธอก็มาเสียชีวิตไปอีกคน ทุกข์ทบทวีใหญ่หลวงขึ้นทุกที
แต่เจ้านางน้อยคนเดียวที่เหลืออยู่ยังสู้อุตส่าห์มานะศึกษาต่อมาเพียงผู้เดียว
เธอได้รับทุนจากทายาทสกุล ‘อนุรักษ์ราชวัลลภ’
ความผูกพันระหว่างเธอกับเขาเริ่มขึ้นตั้งแต่วันนั้น และเกี่ยวเนื่องร่วมบุญร่วมกรรมกันเรื่อยมา
เขต อนุรักษ์ราชวัลลภ บุรุษผู้มีกิริยามารยาทเรียบร้อย มีความสุขุม มีวัฒนธรรม รักดนตรีเช่นเดียวกับเธอ
เรียกว่าอะไรๆ ก็ดีน่ะแหละ ถ้าเพียงแต่เขาจะไม่รู้ทันเธอมากไปเสียหน่อย
รู้จนเหมือนเข้ามานั่งอยู่กลางหัวใจ ..
หัวใจของคนที่ไม่ได้มีไว้รักใครนอกจากประชาชนของเธอเท่านั้น
ระหว่างความผูกพันวัยเด็กที่บังตาว่าเป็นความรัก
เธอบอก .. เธอหลอกตัวเองและทุกคนว่าหน้าที่อันติดตัวมาแต่กำเนิดนั้นคือความรัก
มุ่งมั่น เด็ดเดี่ยวอยู่กับมัน .. ก่อนจะพานพบความรักที่แท้จริง
หากเมื่อพบแล้ว เธอต้องเลือก .. ความรักหรือหน้าที่?
แต่ความสุขก็มีอายุสั้นนัก .. เมื่อรู้ว่ารัก ก็รักด้วยสติสัมปชัญญะ
เธอเลือกแล้ว .. ความรักหรือหน้าที่ ..
โสภาค สุวรรณ ได้ใส่ตัวละครอีกตัวที่เป็นอุทาหรณ์สอนใจให้กับผู้อ่าน .. สำหรับคนเป็นแม่
ตัวละครตัวนี้ นับได้ว่าเป็นพี่น้องคนละแม่กับดุจเดือน
ผู้ใหญ่ทั้งสองบ้านนั้นอาจไม่ถูกกัน
แต่ความใสสะอาดแบบเด็กๆ ทำให้ดุจเดือนและเกนรีคบกับอย่างเพื่อนที่พูดคุยปรับทุกข์กันเสมอๆ
ดุจเดือนเป็นเด็กน่าสงสาร ผู้เขียนเขียนให้เราได้เห็นวิวัฒนาการของคนที่เดินไปสู่ทางเสื่อม
ซึ่งล้วนแล้วแต่มีที่มาจากครอบครัวทั้งสิ้น โชคดีที่ผู้เขียนไม่ใจร้ายกับเธอมากเกินไปนัก
ชีวิตของดุจเดือน (ถ้าวัดด้วยค่านิยมของคนยุคนี้) จึงไม่ถึงกับพังยับในตอนจบ
แต่กระนั้นก็คงทำให้คนอ่านที่เป็นแม่ ‘รู้สึก’ จี๊ดๆ ในใจกันบ้าง
แม้ว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นในยามสงคราม แต่โสภาค สุวรรณก็ยังใส่ความโรแมนติคระหว่างรักต่างฝ่าย
ท่านซอล่า ครูพี่เลี้ยงของเจ้านางน้อยทั้งสอง กับผู้กองผู้ควบคุมเหล่าเชลยศักดิ์เหล่านี้
เป็นความโรแมนติคที่สะอาด สุภาพ และลงตัว
และอีกคู่ .. คู่เอกของเรื่อง ..โรแมนติคในรักที่เป็นไปไม่ได้ รักแต่ต้องหักห้ามใจ ..
แม้เนื้อหาจะต่างจากความเป็นจริงไปมากมาย ..
แต่นิยายเรื่องนี้ก็ตรงกับวัตถุประสงค์ของผู้เขียน และมันสนุกค่ะ
ปล. ไปเสิร์ชหาภาพเจ้านางเกนรี มายรีที่ค่อนข้างล่าสุดมา
ได้พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ทั้งคู่ และมีลักษณะค่อนข้างตรงกับที่บรรยายเอาไว้ในหนังสือค่ะ
ที่มาของภาพค่ะ ในนั้นเล่าเรื่องการไปเยี่ยมชมวังของเจ้าฟ้ารัฐสีป่อเอาไว้น่าสนใจด้วยค่ะ
Comments are closed.