อ่านแล้วเล่า

ร้านหนังสือรอบโลก

73-1 ร้านหนังสือรอบโลก

เรื่อง ร้านหนังสือรอบโลก
ผู้แต่ง บลูเบอรี่พาย, นวรัตน์ รุ่งอรุณ, อาทิตย์ พรหมประสิทธิ์,
ดวงฤทัย เอสะนาชาตัง, โคลญ่า, ปราบดา หยุ่น, เด็กหญิงหง่าว,
สุดแดน วิสุทธิลักษณ์
สำนักพิมพ์ ฟรีฟอร์ม
ราคา 125 บาท

ร้านหนังสือรอบโลก เป็นบทความเกี่ยวกับหนังสือที่ถูกแบ่งกันเขียน
โดยนักเขียนทั้งหมด 8 คน (เยอะมากกก)

เป็นหนังสืออีกเล่มที่คนรักหนังสือน่าจะชอบ
และยิ่งถ้าคนอ่านรักการท่องเที่ยวด้วยละก็ น่าจะหลงรักหนังสือเล่มนี้ได้ไม่ยากเลย

หนังสือเล่มนี้ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2545
นับจนถึงวันนี้ ข้อมูลหลายส่วนเปลี่ยนแปลงไปมากอยู่
แต่ถึงอย่างนั้น ในการตีพิมพ์ครั้งใหม่นี้ .. บางเรื่องก็มีการอัพเดทข้อมูลกันใหม่
พอให้เราได้รู้ข่าวคร่าวร้านหนังสือที่เคยเอ่ยถึงในการตีพิมพ์ครั้งแรก
แต่ในขณะเดียวกันก็ได้รู้ที่มาที่ไป รู้เหตุการณ์ตั้งต้นในยุคนั้นด้วย
แต่ถึงอย่างนั้น ก็รู้สึกตะหงิดๆ อยากไปหาฉบับพิมพ์ครั้งแรกมาแอบอ่านเปรียบเทียบ ;P

73-2 ร้านหนังสือรอบโลก

ร้านหนังสือรอบโลก เล่มนี้ แนะนำร้านหนังสือน่ารัก น่าไป ทั่วโลกให้เรารู้จัก
เน้นหนักไปที่อังกฤษและอเมริกา มีญี่ปุ่นรองลงมา
และยุโรป แถบออสเตรเลีย อินเดีย และจีนอีกประปรายกรุบกริบ
ถ้าคนรักหนังสือได้อ่าน คงมีอาการเนื้อเต้นตุบๆ
อยากจะย่างเหยียบไปเยี่ยมเยียนมันเสียทุกร้านที่กล่าวถึง
อ่านแล้วหัวใจฟูๆ ดีจริงๆ ค่ะ

บทแรก ถูกเขียนโดยบลูเบอรี่พายค่ะ
เป็นบทเปิดที่โดยมาก เพราะพาเราเล่าย้อนไปถึงประวัติศาสตร์ของร้านหนังสือทั่วโลก
เป็นการเรียบเรียงไทม์ไลน์ของสิ่งที่เรารัก ให้รักได้กว้างขึ้นและลึกขึ้น
บลูเบอรี่พายแนะนำร้านหนังสือทั่วโลกเอาไว้อย่างกว้างๆ แต่ครอบคลุม
เป็นการเปิดโลกทัศน์นักอ่านกระจิ๋วหลิวอย่างเราให้อู้หูไปกับเรื่องราวที่เธอเล่า

และในบทต่อๆ มา นักเขียนท่านต่อๆ มาก็ได้ยกเอาร้านพิเศษๆ ที่ตัวเองชอบมาเล่าถึง
หลายร้านแปลกประหลาดจนต้องอุทานว่า คิดได้ไงเนี่ยะ!
แถมเจ้าของร้านกล้าเปิด ลูกค้าก็กล้าเข้าเสียด้วย
ในบางส่วน ข้อมูลของร้านหนังสือมีซ้ำกันบ้าง
ก็เพราะเป็นร้านเด่นดี ถูกอกถูกใจนักเขียนหลายต่อหลายคนซ้ำกันนี่แหละ

แต่ร้านหนังสือเดียวกัน ที่ถูกมองด้วยสายตาที่ต่างกัน
ก็ทำให้เราเห็นบางมุมที่แตกต่างกันออกไปบ้าง

มาถึงบทที่ถูกเขียนโดยปราบดา หยุ่น ..
ดูจะเป็นบทที่โดดเด้งแซงหน้าบทไหน สำนวนเหลือรับจับใจ
นับจากแรกอ่านงานของปราบดามาร่วม 20 ปี (ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง)
ลืมสนิทไปเลยว่าสำนวนเขาเป็นเช่นไร .. บทเดียวจับใจเป็นเช่นนี้นี่เอง
เห็นทีต้องกลับไปคุ้ยงานเก่าๆ ของเขามาอ่านทวนซะแล้ว

ในบทสุดท้าย ว่าด้วยเรื่องของประวัติศาสตร์ของที่คั่นหนังสือ
ซึ่งแม้จะไม่ได้เล่าถึงร้านหนังสือ แต่ก็เป็นบทที่เหมาะสมสำหรับการสรุปจบที่สุด
ร้านหนังสือรอบโลก เป็นหนังสือเล่มบางที่อ่านเพลินมาตั้งแต่ต้นจนจบเลยค่ะ ^^

Comments are closed.