อ่านแล้วเล่า

กลับมาแล้วครับ

DSCN1799

เรื่อง กลับมาแล้วครับ
ผู้แต่ง Timur Vermes
ผู้แปล ฉัตรนคร องคสิงห์
สำนักพิมพ์ เลเจนด์ บุ๊คส์
ราคา 330 บาท

หลังจากที่เพิ่งอ่าน เด็กชายในชุดนอนลายทาง จบ
เหตุการณ์อันเลวร้ายที่มีต้นตอจากชายไว้หนวดทรงประหลาด
ที่ใครๆ ยกย่องให้เป็นท่านฟือห์เรอร์ (ท่านผู้นำ) ยังคงอวลอยู่ในอารมณ์

อดไม่ได้ที่จะหยิบ กลับมาแล้วครับ ..
หนังสือที่ว่าด้วยเรื่องราวของฮิตเลอร์ผู้ฟื้นตื่นขึ้นมายุค ค.ศ. 2011 .. ขึ้นมาอ่าน
ด้วยความต้องการและความหวังว่าจะเจออะไรสักอย่างที่จิกกัดและประชดประชันในอารมณ์
อยากเห็นความลำบาก สับสน ยอมแพ้ หรืออะไรสักอย่างทำนองนี้ของทั่นฟือห์เรอร์จอมเผด็จการ
(ซึ่งคาดว่าคงไม่เยอะ เพราะผู้เขียนเองก็เป็นคนเยอรมัน)
ซึ่งก็เอาเถอะ มันคงพอจะมีอะไรที่เราต้องการอยู่บ้าง .. ก็ลองอ่านดู

94-1 กลับมาแล้วครับ

ฮิตเลอร์ผู้ฟื้นตื่นขึ้นมาในศตวรรษที่ 21 ต้องใช้ความอดทนอย่างสูงในการเริ่มต้นชีวิตใหม่
ใช้ชีวิตเป็นตัวเองในแบบที่ใครๆ ก็ไม่เชื่อ และให้เครดิตเขาเป็นแค่คนหน้าเหมือน (มากๆ) เท่านั้น

DSCN1796

หลังจากที่ฮิตเลอร์ได้ตรึกตรอง ครุ่นคิดถึงเหตุผลของการกลับคืนมาอีกครั้งของตนเองอย่างถ้วนถี่นั้น
เขาได้ข้อสรุปในตอนท้ายที่ว่า แท้จริงแล้วเขากลับมาเพื่อเป็นผู้นำให้กับเยอรมันอีกครั้ง
เปลี่ยนแปลงเยอรมันให้หลุดพ้นจากการปกครองภายใต้รัฐธรรมนูญที่ปนเปื้อนเศษเสี้ยวของประชาธิปไตย
และฉุดดึงผู้คนที่หลงผิดอยู่ในลัทธิทุนนิยมอันเน่าหนอน
และแล้ว .. ปฏิบัติการของเขาจึงเริ่มต้น

DSCN1791

อ่านทวิภพ หรือแม้แต่อตีตา ที่มีการวาร์ปข้ามภพเวอร์ชั่นไทยมาหลายเรื่องแล้ว
มาเจอวาร์ปข้ามภพเวอร์ชั่นเยอรมันกันบ้าง รสชาติก็ปะแล่มๆ แปลกๆ ไปอีกแบบ
ฮิตเลอร์เองก็ต้องพบเจอความแปลกประหลาดของโลกยุคใหม่ไม่แพ้เมืองใจ (จากอตีตา)
(แต่เอาจริงๆ นะ ของไทยดูสมจริง และเห็นภาพกว่าเยอะเลย .. คงเป็นเพราะผู้เขียนต้องการสื่อคนละสาร)

94-2 กลับมาแล้วครับ

กลับมาแล้วครับ ในทรรศนะของเรานั้น เรามองว่าผู้เขียนแค่ยืมปากของฮิตเลอร์วิพากษ์สังคมยุคปัจจุบัน
โดยที่เราไม่รู้หรอกนะว่าฮิตเลอร์ตัวจริงเป็นคนแบบไหน หรือควรจะเป็นคนยังไง
และถ้าเขาเกิดโผล่เข้ามาในยุคนี้จริงๆ จะคิด จะทำ จะเป็นแบบในหนังสือหรือไม่
เราจึงไม่รู้เลยว่าหนังสือเล่มนี้เขียนได้สมจริงหรือเปล่า

เสียงร่ำลือถึงหนังสือเล่มนี้ก่อนจะถึงมือเรานั้นค่อนข้างอื้ออึง
แต่พอมาอ่านเองกลับค้นพบอะไรหลายอย่าง .. อย่างหนึ่งในนั้นคือ ..
บางที ผู้อ่านคงจะต้องมีความรู้ทางสังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์
และการเมืองการปกครองของยอรมันบ้างพอประมาณ (อย่างน้อยก็ประวัติศาสตร์ยุโรปช่วงสงคราม .. เอ้า!)
เพราะเนื้อหาส่วนมากเสียดสี จิกกัดอะไรหลายๆ อย่างพวกนั้น
ซึ่งข้าพเจ้าไม่รู้จักตัวละครเกือบทั้งหมดที่ฮิตเลอร์เอ่ยถึงในเรื่อง (แม้มีอธิบายในเชิงอรรถก็เถอะ)
อ่านแล้วก็ยังไม่มีความรู้ ไม่เก็ต ไม่อิน ไม่ฮาเลย .. น่าเศร้าจริงๆ T—-T

เพราะฉะนั้นสิ่งที่ท่านผู้นำพล่ามในครึ่งเล่มแรกนั้น .. น่าเบื่อมาก
และถ้าไม่คิดจะรีวิวก็คงเลิกอ่านไปแล้ว แล้วมันก็คงกลายเป็นอีกเล่มที่อ่านไม่จบ
จะว่าไป การตั้งโจทย์รีวิวหนังสือแบบนี้ก็นับเป็นข้อดีเหมือนกันนะ
ที่จะไม่ทำให้เราตัดสินหนังสือเพียงครึ่งเล่ม

94-3 กลับมาแล้วครับ

ไม่ว่ายิวหรือเยอรมันก็เป็นเพียงแค่สิ่งสมมติ

ถ้าใครคนหนึ่งเป็นเยอรมันเสีย 99% และมีเลือดยิวอยู่ 1% เขาเป็นเยอรมันหรือยิว?
และถ้าใครคนหนึ่งเป็นยิวอยู่ 99% .. กลับกันบ้างเล่า
ฮิตเลอร์เองจะรู้ได้ยังไงว่าปู่ของปู่ของปู่ของปู่ตัวเองจะไม่มีญาติเป็นยิวเข้าสักคน

ทั้งเยอรมันและยิว .. ไม่ว่าจะนับยังไง มันก็คือสิ่งสมมติ ..
เป็นสิ่งสมมติที่มนุษย์ยึดถืออย่างแน่นเหนียวพอที่จะเอามาเป็นข้ออ้างเพื่อฆ่ากันได้ ..

พูดถึงตอนใกล้จบ มีหักมุมเล็กๆ แบบจุดไต้ตำตอ แต่แค่นั้นก็ทำให้จุกได้เบาๆ (เบามาก)
ส่วนตอนจบ .. อืม .. มันจบแล้วเหรอ?

เอาเป็นว่าข้อสรุปเมื่ออ่านจนจบก็คือ ..
กลับมาแล้วครับ เป็นหนังสือที่อ่านได้เพลินๆ รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง (โชว์โง่กันไปเลย)
แต่ถึงไม่อ่าน ก็ไม่เป็นไร เราไม่ได้พลาดอะไรในชีวิตไปหรอก .. พูดเลย!!

Comments are closed.